มุมมองของนักแคมป์ในการพัฒนาชุมชน ฉบับที่ 2
การตั้งแคมป์ทำให้เราได้เรียนรู้ธรรมชาติอย่างแท้จริง
Snow Peak Regional Creation Consulting
Ryuichi Wakamatsu / ริวอิจิ วากามัตสึ

"ที่นี่ไม่มีอะไรเลย นอกจากธรรมชาติ"
นี่คือประโยคหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยมาก เมื่อไปเยือนชุมชนท้องถิ่นในญี่ปุ่น
แน่นอนว่าเราคิดว่า "ที่จริงแล้ว สิ่งที่ผู้คนต้องการในตอนนี้อาจจะเป็นธรรมชาติเหล่านี้ก็ได้"
ด้วยหน้าที่การงานที่ทำให้เราได้เดินทางไปทั่วญี่ปุ่น เราสามารถพูดได้เลยว่า "ไม่มีที่ไหนในชนบทของญี่ปุ่นที่ไม่มีธรรมชาติที่สวยงาม"
แล้วเราจะนำธรรมชาติเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร? นั่นคือสิ่งที่เราทำงานร่วมกันเพื่อหาคำตอบ
คุณค่าที่คนในยุคปัจจุบันกำลังมองข้าม

ในยุคที่เราใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีมากมาย สิ่งที่หลายคนรู้สึกว่าขาดหายไปมากที่สุด ไม่ใช่แค่ความรู้สึกชื่นชมความงามของธรรมชาติ แต่เป็นการที่เราไม่มีเวลาเพียงพอที่จะสังเกตเห็น การเปลี่ยนแปลง ของความงามในธรรมชาตินั้นๆอย่างละเอียด
เช่น การเปลี่ยนแปลงของสีท้องฟ้าในยามเช้า เสียงลมที่พัดเบาๆ หรือแสงแดดที่ส่องกระทบกับสิ่งต่างๆ รอบตัว
ความงามของธรรมชาติไม่ได้ปรากฏให้เห็นเพียงชั่วขณะ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลองจินตนาการถึงช่วงเวลา 15 นาทีที่เราใช้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ เช่น ท้องฟ้าที่ค่อยๆ สว่างขึ้น สีของทะเลที่เปลี่ยนไปตามแสงแดด หรือพืชพรรณที่เริ่มผลิใบเมื่อได้รับแสงแดด
คุณมีเวลา 15 นาทีแบบนี้ในชีวิตประจำวันบ้างไหม?
การไปตั้งแคมป์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยให้เรามีเวลาได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และเข้าใจถึงความงามที่แท้จริงของธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น
ทิวทัศน์ที่เราจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อไปตั้งแคมป์

ถ้าคุณไปเที่ยวเมืองโคจิ จังหวัดโคจิ แบบทั่วไป คุณก็จะได้เห็นแม่น้ำนิโยโดะแค่ในช่วงเวลาที่คุณไปเท่านั้น คุณอาจจะไม่ได้เห็นแม่น้ำนิโยโดะยามเช้าที่ปกคลุมไปด้วยหมอก หรือในยามค่ำคืนที่สะท้อนแสงจันทร์ มันเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก
การตั้งแคมป์คือการได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ซึ่งหมายความว่าการสร้างพื้นที่สำหรับตั้งแคมป์ก็เหมือนกับการสร้างโอกาสให้ผู้คนได้สัมผัสกับความงามตามธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันในท้องถิ่นนั้นๆ
ถ้าสมมติว่าเมืองของคุณมีแต่ธรรมชาติ (ซึ่งจริงๆ แล้วก็ยากที่จะเป็นเช่นนั้น) คุณอยากจะให้ผู้คนได้สัมผัสกับความงามที่แท้จริงของธรรมชาตินั้นมากขึ้นไหม?
ในฐานะคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ฉันอยากจะแบ่งปันความงามของธรรมชาติที่ฉันได้สัมผัสให้กับคนอื่นๆ
คำว่า "ท่องเที่ยว" ในภาษาญี่ปุ่นเขียนว่า "観光" ซึ่งแปลว่า "ดูแสง" มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเราได้ไปเยือนสถานที่หนึ่งเพื่อดูแสงสว่างที่แท้จริงของสถานที่นั้น เพื่อดูธรรมชาติและเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปตามแสง
ถูกดึงดูดด้วยธรรมชาติของเมืองโคจิ

Snow Peak ได้เปิดสาขาใหม่ชื่อ "Kawano Eki Ochi" ซึ่งอยู่ห่างจาก "Snow Peak Ochi Niyodogawa Camp Field" เดิมเพียง 5 นาที โดยสาขานี้เป็นสาขาของ Snow Peak แห่งแรกที่เน้นเรื่อง "เวลา"
นอกจากจำหน่ายสินค้าแล้ว ยังมีกิจกรรมพายเรือคายัค และที่พักแบบ "จูบาโกะ" ซึ่งเป็นบ้านเคลื่อนที่ขนาดเล็กให้บริการด้วย โดยเริ่มเปิดจองที่พักได้ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2019
จูบาโกะ นั้นมีความพิเศษตรงที่เป็นยานพาหนะ จึงโยกเยื้องได้เมื่อมีลมแรง และสามารถได้ยินเสียงนกร้องรอบๆ ทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายและความตื่นเต้นในการพักกลางแจ้งในเวลาเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากการพักในโรงแรมทั่วไป Snow Peak ต้องการให้ที่พักแบบนี้เป็นตัวแทนของแนวคิดที่ว่า
การได้ใกล้ชิดธรรมชาติจะช่วยให้มนุษย์เรากลับมาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

และอีกที่หนึ่งที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้คือ "Snow Peak Tosa Shimizu Camp Field" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สอนให้เราเห็นถึงความสวยงามของการเปลี่ยนแปลง เมื่อคุณมาที่นี่ คุณจะได้เห็นว่าสีของทะเลนั้นมีหลากหลายเฉดสีมาก และถ้าคุณไปเยี่ยมชม "Ashizuri Haidokan" (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใต้มหาสมุทรอาซุซุริ) คุณจะพบว่าสัตว์ทะเลต่างๆ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาเช็คอิน และเช็คเอาท์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
เมื่อได้ใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติสักนิด เราจะได้ค้นพบอะไรใหม่ๆ มากมาย การไปตั้งแคมป์มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ ไม่ใช่เหรอ?
ฉันหวังว่าการได้อ่านข้อความนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณได้มาสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามของจังหวัดโคจิอย่างแท้จริง


Comments