top of page

Search Results

73 items found for ""

  • อยู่บ้านนานๆ แบ่งเวลามาปลูกไมโครกรีนกัน

    ไมโครกรีน คืออะไร ต่างจากผักหรือสมุนไพรปกติอย่างไร ? มีสารอาหารไหม ? ไม่ต้องไปหาอ่านที่ไหนเพราะเรารวมมาให้แล้ว Photo by Stanislav Kondratiev from Pexels ไมโครกรีนคืออะไร ไมโครกรีนไม่ใช่ชื่อขอมันนะ ไมโคกรีน คือ ผัก, สมุนไพร และเหล่าดอกไม้ที่ทานได้บางชนิดที่เราเก็บเกี่ยวเค้าในช่วงก่อนที่จะโตเป็นต้นใหญ่ ถึงมันจะมีไซส์เล็กแต่คุณค่าทางอาหาร และรสชาติกลับสวนทาง ผัก สมุนไฟร ดอกไม้อะไรบ้างที่มีขายในแบบไมโครกรีนส่วนใหญ่ที่เห็นที่บ้านเราชัดๆก็จะมี ต้นอ่อนทานตะวัน โต้วเหมี่ยว ผักโขม มัสตาร์ด เคล บร็อคโคลี โหรพาหัวไชเท้า ร็อกเก็ต โป๊ยกั๊ก โบราจ ผักชี ผักชีลาว เครส เฟนเนล พาสลีย์ กะหล่ำปลี โคลราบิ ถั่ว ดอกดาวเรือง สารอาหารที่ได้จากไมโครกรีน ถึงไมโครกรีนนั้นจะจิ๋วแต่จากงานวิจัยต่างๆล้วนบอกว่ามันเปี่ยมไปด้วยสารอาหารอันแสนจะมีคุณค่า ไมโครกรีนของผักบางชนิดถือว่าเป็น Super food เลยทีเดียว กระทรวงเกษรของประเทศอเมริกาเคยบอกว่าไมโครกรียนในผักบางชนิดกักเก็บสารอาหารไว้มากกว่าตอนที่มันโตเต็มวัยเสียอีก อย่างกะหล่ำปลีแดง ที่ได้รับการสนใจอย่างมากว่ามันอาจจะช่วยป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง แบบโรคหัวใจและหลอดเลือด ไมโครกรีนของผัดแต่ละชนิดก็มีคุณค่าทางสารอาหารแตกต่างกันไป แต่ทั่วไปถ้าเรารับประทานก็จะได้รับสารอาหารจำพวก แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินที่หลากหลาย รวมไปถึง ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และ แมงกานีส เมล็ดของไมโครกรีนต่างจากเมล็ดผักทั่วไปหรือไม่ โดยตามองแล้วไม่ต่างจากเมล็ดพันธุ์ทั่วไปเพียงแต่เมล็ดที่เป็นไมโครกรีนจะเป็นพันธุ์งอก และแตกใบได้เร็วกว่าเมล็ดปกติโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่สามารถโตเป็นต้นไซส์ปกติได้ ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมมันก็สามารถโตได้เช่นกัน ปลูกอะไรดีน๊า ตามจริงแล้วก็เลือกปลูกตามที่ตัวเองชอบทานนั่นแหละ แต่ถ้าจะให้แนะนำก็ควรปลูกให้หลากหลาย อีกอย่างก็คือควรเลือกเมล็ดออร์แกนิก อย่านำเอาสารเคมีเข้าสู่ร่างกายเลย ลองมาทำอะไรสนุกๆด้วยกัน BAREBONES LIVING THAILAND OFFICIAL CAMP STUDIO

  • เสริม เติม ต่อ ให้พอดี

    หลายๆคนต้องการที่จะนั่งบนเก้าอี้ที่สูงขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ Kermit Chair ผลิต Leg extensions อาจจะด้วยความสูงของผู้นั่ง ทำให้นั่งสบายขึ้นเมื่อใช้ leg extensions เจ้าที่ต่อขาอันนี้ใช้ได้อย่างเนียนสวยไปกับ Kermit Chair จนแทบมองไม่ออกเลยว่าเป็นส่วนเสริม เจ้า Kermit Chair Leg Extensions ใช้ได้กับ Kermit Chair ทั้งแบบ Standard และ แบบ Wide แถมยังมีให้เลือก 2 สี ทั้งสีดำ และ สีเงิน น้ำหนักรวม 0.6 กิโลรัม Leg extensions สามารถต่อกับขาเก้าอี้ได้อย่างง่ายโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ช่วย ไม่ต้องมีตัวรัดเสริมใดๆ แล้วยังมีจุกยางกันรอยมาให้ด้วย เก็บในถุงไนลอนสีดำที่ให้มาพร้อมกัน ได้อย่างเป็นระเบียบ Barebones Living Thailand CAMP STUDIO

  • Pulaskiaxe ขวานที่แข็งแรงที่สุด

    Pulaskiaxe คือขวานที่แข็งแรงที่สุดของ Braebones ขวาน Pulaskiaxe ถูกออกแบบโดยคนที่ใช้ขวานเป็นประจำทุกๆวันในวิถีชีวิตแบบอเมริกัน จากหัวขวานถึงปลายด้ามจับ มีโครงสร้างเหล็กที่รั้งทั้งหัวขวานและด้ามจับเข้าด้วยกัน ดังนั้นเวลาที่เราแค่จับถือ เราก็จะรู้สึกได้ถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับของขวานทั้งอัน เหมือนกับมันได้ติดกันเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด ไม้ที่ด้ามจับ ให้ความสัมผัสที่ดี มันดีสำหรับการจับถือด้วยมือปล่าว แต่ยังไงก็ตาม การสัมผัสวัสดุท่ามกลางธรรมชาติ ก็ความสวมถุงมือ เพื่อถนอมมือเราไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นมา Barebones Classic Work Glove ดูกันชัดๆอีกที่ ว่าทำไมขวาน Pulaskiaxe ถึงนิยมมากในอเมกา จากด้ามถึงปลาย ถูกรั้งด้วยเหล็กที่แข็งแรงมาก ทำให้ขวานมีสโต๊กที่แม่นยำ เข้าถึงวัตถุที่เราต้องการสโต๊กลงไปได้อย่างมั่นใจที่สุด Pulaskiaxe สั่งซื้อได้ตรงนี้ครับ https://www.campstudio.co.th/product-page/pulaski-axe ถุงมือและสินค้า Bareborns ทั้งหมดที่นี่ครับ https://www.campstudio.co.th/barebones สอบถามสินค้าอื่นๆ m.me/CAMPSTUDIO ขอบคุณครับ CAMP STUDIO

  • ทาร์ตแสนอร่อยต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ ทานคู่กับบูราต้าชีส

    เหล่าดอกไม้ใบหญ้า และสิงห์สาราสัตว์ตื่นจากการหลับใหลในฤดูหนาว ตัวฉันเองก็เช่นกัน ดวงตาได้เปิดกว้างอีกครั้ง หลังจากที่ฤดูหนาวได้ผ่านไป คืบคลานออกจากที่นอนอุ่น ไปพบเจอความสดใสที่ผลิบานอยู่ทุกหนทุกแห่ง เสียงก้องกังวาลของนก Robin ที่ออกมาเฉลิมฉลอง ต้อนรับการกลับมาของ แสงแดด ความอบอุ่น และกลิ่นของความสดชื่น ฤดูใบไม้ผลิได้กลับมาแล้ว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูที่ทุกอย่างกลับมาเป็นสีเขียวสดใน ฉันบรรจงรังสรรค์อาหารประจำฤดูการเพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาเติบโตของพืชพันธุ์ต่างๆ สำหรับ Spring Herb Tart เป็นการผสมผสานของ ไข่ เนย ผัก เครื่องเทศ และ พาเมซานชีส อาหารจานนี้จะปลุกการรับรส เพิ่มคุณค่าทางอาหาร และทำให้เราหวนนึกถึงความสดของผักในสวน แป้งอบกรอบแบบ phyllo เป็นพระเอกของจานนี้ ความกรอบของแป้ง และไข่สดจากฟาร์มช่างเข้ากันได้ดี ทำให้ omelette ธรรมดากลายเป็น quiche ที่สวยงาม และความกรอบช่วยสร้าง texture ในทุกๆคำที่เราได้ลิ้มรส ชั้นบนสุดของทาร์ต ประกอบไปด้วย บูราต้าชีส โพรชูโต พริกป่น และ เหล่าเครื่องเทศที่ผ่านคลุกเคล้ากับนำเลมอน ถ้าคุณต้องการให้เจ้า tart นี้ชนะใจเหล่าผู้ลิ้มลอง คุณแค่เพิ่มปริมาณของไข่ จาก 8 ฟอง เป็น 12 ฟอง ใส่ลงในหม้อ Dutch oven ขนาด10 นิ้ว มันจะเพิ่มความหน้าของ tart จาก 1 นิ้ว เป็น 2 นิ้วครึ่ง แล้วก็ห้ามลืมที่จะปล่อยเจ้า Dutch oven ไว้ในกองถ่านนานขึ้น 15 นาที คุณสามารถสนุกกับการรับประทานอาหารจานนี้ท่ามกลางไออุ่นของแสงอาทิตย์ยามเช้า กลางวัน หรือจะเป็นช่วง brunch การทำก็แสนจะง่ายดาย เหมาะสำหรับการไป camping หรือ ปาร์ตี้ในสวนหลังบ้าน อาหารจานนี้อร่อยจนน้ำลายหก อย่าลืมที่จะเตรียมไว้ให้พร้อมสำหรับคนที่อยากจจะขอเพิ่ม เพราะมันอร่อยเกินที่จะรับประทานแค่จานเดียว Savory Spring Herb Tart with Burrata Cheese สำหรับ 6 ที่ เวลาในการเตรียม 20 นาที เวลาในการทำ 25 นาที รวม 45 นาที เครื่องปรุง แป้ง Phyllo dough 15-20 แผ่น นม 2/3 ถ้วย ไข่สด 8 ฟอง ใบกุ้ยช่ายสด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ ไธมสด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ โหรพาสด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ ผักโขม 3/4 ถ้วย กระเที่ยมสับ 2 กลีบ หอมแดงหั่นแว่น 3 หัว พาเมซานชีส 1/4 ถ้วย เนย 5 ช้อนโต๊ะ น้ำเลมอน ครึ่งลูก บูราตาชีส 4 ออนซ์ โพรชูโต 2 ออนซ์ เกลือ พริกไทย พริกป่น ตามต้องการ วิธีการทำ 1.จุดไฟถ่านจำนวน 30 ก้อน 2.ทาเนย 1 ช้อนโต๊ะ เคลือบหม้อ Dutch oven 3.ค่อยๆวางแป้ง phyllo 3-4 แผ่น ให้ปิดรอบๆ Dutch oven 4.นำถ้วยมาตอกไข่ ใส่เกลือ แล้วตีให้เข้ากัน พักไว้ 5.คลุก เครื่องเทศทั้งหมดให้เข้ากับ กระเทียม หอมแดง และผักโขม แล้วเทลงบนแป้ง phyllo ที่เตรียมไว้ อย่าลืมเก็บเครื่องเทศไว้นิดหน่อยสำหรับแต่งจาน 6.โรยพาเมซานชีส 7.โรยเนย 3 ช้อนโต๊ะ 8.เทไข่ที่ตีเรียบร้อยแล้วลงไป 9.อบที่อุณหภูมิ 400 อาศาฟาเรนไฮ 25 นาที อย่าแอบเปิดฝาดูในช่วง 15 นาทีแรก หลังจาก 25 นาที ให้เปิดฝาแล้วลองเคาะที่ข้างๆหม้อ Dutch oven ถ้าไข่ยังดิ้นๆเหมือนเป็นเจลลี่ หรือเป็นน้ำๆ แสดงว่ายังไม่สุก แต่ถ้าเนื้อไข่ไม่เป็นน้ำ แป้ง phyllo เป็นสีน้ำตาลทองสวยงามแสดงว่าได้ที่แล้ว 10.ย้ายหม้อออกจากกองถ่าน tart จะยุบตัวประมาณ 1 นิ้ว 11.นำเครื่องเทศที่เหลือมาผสมกับน้ำมะนาว 12.ทาเนย 1 ช้อนโต๊ะที่หน้า tart แล้วค่อยๆเท น้ำมะนาวผสมเครื่องเทศให้ทั่ว 13.ตกแต่งด้วยบูราตาชีส โพรชูโต และ พริกป่น ขอบคุณบทความดีๆจาก Brianne Dela Cruz : IllumeCo. CAMP STUDIO BAREBONES THAILAND

  • 3 ขั้นตอนที่ง่ายแต่ให้ผลดี

    มาดูแลรักษาเครื่องมือต่างๆของ BAREBONES กันเถอะ ไม่ว่าจะเป็น Woodsman tools หรือ Gardening tools เครื่องมือก็เหมือนร่างกายของเรา ที่เมื่อถูกใช้งานก็ควรจะได้รับการรักษา และ ดูแล การดูแลรักษาเครื่องมือจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกหลายปี มาเริ่มกันเลยดีกว่า +++ ข้อแรก : ทำความสะอาดคราบดินแห้งๆ หรือคราบเปื้อนด้วยแปรงลวดเหล็ก มันสำคัญมากเลยนะการทำความสะอาดอุปกรณ์ของเราทุกครั้งหลังใช้ทุกครั้ง การที่เราปล่อยให้มีคราบดิน คราบปุ๋ยเกาะอยู่บนอุปกรณ์ของเราจะทำให้ขึ้นสนิมได้ง่ายกว่าเดิม แถมด้ามไม้ยังผุพังก่อนเวลา สำหรับพวกมีด หรือ ของมีคมควรเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้า เพื่อคงความคมของใบมีดไว้ ข้อสอง : ฆ่าเชื้อใบมีด และ อุปกรณ์ต่างๆด้วยผ้าชุบแอลกอฮอล์ การที่เราใช้อุปกรณ์ในหลายๆสถานที่ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าแต่ละที่ มีต้นไม้หรือดินที่มีเชื้อโรคไหม แล้วเราจะกลายเป็นพาหะที่พาเชื้อโรคต่างๆ ไปติดต่อในวงกว้างหรือเปล่า เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ใช้อุปกรณ์เสร็จ อย่าลืมเช็ดใบมีด หรือ ส่วนที่เป็นเหล็กด้วยแอลกอฮอล์ นอกจากจะช่วยฆ่าเชื้อแล้ว ยังช่วยลดการเกิดสนิมอีกด้วย ข้อสุดท้าย : รักษาด้ามจับไม้ให้คงทนด้วย Wood wax ด้ามไม้ต้องแห้งและความสะอาดก่อน ถึงจะลง wood wax หรือ wood oil ได้ ทา wood wax หรือ wood oil ลงไปบางๆแล้วเช็ดออกเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการรักษาเนื้อไม้แล้ว เห็นไหมว่า 3 ขั้นตอนนี้ทั้งง่ายและไม่ต้องใช้เวลามาก เปิดเพลงฟังเพลินๆ แล้วก็ทำความสะอาดไปด้วย แสนจะชิล BAREBONES LIVING THAILAND OFFICIAL CAMP STUDIO

  • ถุงมือ! สิ่งเล็กๆ ที่คนมักจะมองข้าม

    ในการพจญภัยครั้งนี้การออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้ง ได้ทั้งความสนุก ความตื่นเต้น แต่เราควรเพิ่มความปลอดภัยเข้าไปในการพจญภัยทุกทุกครั้งด้วย เดือนนี้ทุกๆ อย่างกลายเป็นสีเขียว ต้นไม้ใบหญ้าแตกช่อ ออกใบ ต้อนรับหน้าฝนกันอย่างสนุกสนาน ทางพวกเราคนชอบกางเต้นท์ก็คงต้องตัดเล็ม กิ่งไม้ร่าเริง ถอนวัชพืชเพื่อเคลียพื้นที่ให้เรียบก่อนกางเต้นท์ จะได้ตั้ง camp site กันได้ ใส่ถุงมือกันหน่อยจะได้ป้องกันมือเราจากหนาม หรือ เสี้ยนไม้ จะหาฟืนก่อกองไฟ คนที่ไม่เคยใช้มีด ใช้ขวานสวมถุงมือซะหน่อยมือจะได้ไม่พอง ถุงมือคู่นี้คู่เดิมใส่ทำอาหารก็ได้จับหม้อ กระทะ cast iron ได้สบายๆ ถึงเวลาเก็บข้าวเก็บของเก็บเต้นท์เราก็ใส่ถุงมือซะหน่อยเวลาถอนสมอ ตรวจนับสมอ เศษดินเศษหญ้าจะได้ไม่เลอะมือ สุดท้ายแล้วอย่าลืมเช็ดทำความสะอาด เก็บถุงมือให้ครบคู่ แล้วกลับบ้านกัน ขอให้ทุกคนออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งอย่างปลอดภัย BAREBONE LIVING THAILAND CAMP STUDIO

  • แพคของยังไงให้ทุกอย่างยังครบ 32

    การขนของแพคของไปกางเต้นท์แต่ละครั้ง ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากเลยได้เลือกของแต่ละชิ้นให้เหมาะสำหรับพื้นที่กางเต้นท์ที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่าจะเลือกยังไงไม่รู้ว่าทุกคนเป็นไหมสุดท้ายของก็ยังเยอะอยู่ดี วางซ้อนทับกันไปมาแน่นรถเลยทีเดียว การที่เราต้องขนของเยอะ และวางเบียดกันสิ่งที่ต้องระวังเลยคือ ร่องรอยที่อาจเกิดขึ้นจากการเสียดสี หรือ กระแทก ก็อย่าลืมที่จะหาถุง หรือ ซองใส่ของแยกชิ้นให้เรียบร้อย กันการเกิดร่องรอย ของบางอย่างเลิกผลิตไปแล้วหรือหายาก เราจะได้ไม่ต้องมาเสียดายที่หลัง การจัดเก็บสายไฟเราควรม้วนสายไฟเก็บให้เรียบร้อยทุกครั้ง การที่สายไฟพันกันยุ่งเหยิงเสี่ยงมากที่จะทำให้สายไฟไปเกี่ยวกับของอย่างอื่นทำให้ตกหล่นเสียหาย แถมการที่สายไฟพันกันไปมาแวลาเราต้องมานั่งรื้อสายไปยังอาจส่งผลกับการใช้งานอีกด้วย สุดท้ายท้ายสุดการจัดเก็บของมีคมอันนี้สำคัญมาก เราต้องเก็บเหล่าของมีคมทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น ขวาน มีด เราต้องเก็บให้เรียบร้อย ให้เก็บไว้ในปลอก หรือ ฝัก ล็อคให้เข้าที่ เพราะถ้าเราเลือดตกยางออกระหว่างไปแคมป์ก็จะพาลทำให้ไม่สนุก สุดท้ายนี้เราอยากให้ทั้งคุณ และ อุปกรณ์ปลอดภัยในทุกการเดินทาง ขอให้ทุกคนแคมป์ให้สนุก BAREBONES LIVING THAILAND CAMP STUDIO

  • ค้นหากลิ่นที่ซ่อนอยู่ในป่า

    Sanborn County Park ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมือง ซานฟรานซิสโก ห่างออกไป 50 ไมล์ แต่ด้วยพื้นที่ขนาด 3,400 เอเคอร์ ทำให้สามารถรวมสิ่งต่างๆไว้ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเดินป่า, ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า, ลานหิน เหมาะที่จะเป็นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งสนุกๆในช่วงสุดสัปดาห์ นอกจากธรรมชาติที่น่าสนใจแล้วเรายังได้เจอทีมของ juniper ridge ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน พวกเค้าเชื่อว่า “ไม่มีกลิ่นหอมไหนจะหอมไปกว่ากลิ่นของป่า” ผู้ก่อตั้งและทีมของเค้าได้พัฒนากลิ่นต่างๆขึ้นจากพืชพันธุ์ที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบ อเมริกาตะวันตก โดยใช้เทคนิคการทำนำ้หอมที่ตกทอดกันมา เค้าสามารถสกัดกลิ่นได้จากของแปลกๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ป่า, เปลือกไม้, ต้นมอส หรือแม้กระทั่งเห็ด การตัดเล็มของจากป่าเกิดขึ้นด้วยความเคารพในธรรมชาติ และ ได้รับอนุญาติ กระบวนการเหล่านี้ทำให้พวกเค้าเก็บกลิ่นมหัศจรรย์ของธรรมชาติเอาไว้ได้ โดย 1ในทีมงานของ Juniper Ridege เลือกที่จะใช้ Hori Hori เป็นตัวช่วยสำคัญ ในการช่วยเก็บเกี่ยวกลิ่นที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าเหล่านี้ ติดตามเรื่องราวมากมายได้ที่ BAREBONES LIVING THAILAND OFFICIAL

  • ของกินเล่นง่ายๆ ที่ควรมีติดแคมป์ไว้

    ไม่มีกลิ่นไหนจะเย้ายวนใจได้เท่ากลิ่นป๊อบคอร์นใหม่ๆ ยิ่งถ้าเป็นป๊อบคอร์นที่เราทำเองจากเตาถ่านแล้วยิ่งหอมกว่าใคร ว่าง Cast Iron Dutch Oven ลงไปบนกองฟืน รอให้ร้อนได้ที่ แล้วค่อยๆใส่น้ำมันมะกอก กระเทียม กิ่งโรสแมรี่ ลงไปผัดเข้าด้วยกัน พอกลิ่นเริ่มหอม ให้นำกระเทียมและ กิ่งโรสแม่รี่ออกจากหม้อ เท่านี้เราก็จะได้น้ำมันที่หอมกลิ่นเครื่องเทศแล้ว จากนั้นก็ถึงตอนสำคัญเตรียมฟังเสียงให้ดี !!! เพราะเมื่อเราใส่ป๊อบคอร์นดิบลงไปในหม้อปิดฝาให้เรียบร้อย ถ้าเจ้าป๊อบคอร์นเริ่มแตกตัวช้าลง ก็ต้องรีบยกหม้อออกมาจากกองฟืน เปิดฝาหม้อด้วยความระวังแล้วเตรียมพบกับป๊อบคอร์นสวยงามน่าทาน หรือใครอยากได้รสชีส ก็ขูดชีสตอนที่ป๊อบคอร์นยังร้อนๆก็จะได้ชีสเยิ้มๆ ไม่ว่าจะเป็น พาเมซาน เชดด้าแค่คิดก็อร่อยแล้ว ถ้าเป็นสายหวาน อย่าลืมช๊อกโกแลต หรือ คาราเมลหวานนนนน ชื่นใจ รับรองว่าเมนูนี้ประทับใจทั้งคนในครอบครัวและเพื่อนที่ร่วมเดินทางแน่นอน BAREBONES LIVING THAILAND CAMP SRUDIO

  • ให้เมนูนี้เป็นตัวผูกมิตร

    เวลาที่เราเพิ่งแคมป์เป็นครั้งแรก หรือ อยากผูกมิตรกับเต้นท์ข้างๆ ลองแบ่งปัน แลกเปลี่ยนอาหารเป็นการสร้างเพื่อนใหม่ดูซิ ให้ปีกไก่ของเราเป็นตัวช่วยเริ่มต้นบทสนทนาต่างๆ ใครจะปฏิเสธปีกไก่ที่หมักซอส BBQ จนเข้าเนื้อ แถมยังกรอบนอกนุ่มใน มาพร้อมกับผักสดหลากหลาย ทานเป็นกับแกล้มระหว่างพูดคุยเรื่องต่างๆนานาๆ พร้อมนั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน อ่านมาขนาดนี้แล้วมาดูสูตรกันเลยดีกว่า สูตรนี้สำหรับทาน 4 คน เครื่องปรุง ซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วย น้ำส้มแอปเปิ้ลหมัก 4 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 2/3 ถ้วย น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย ผงหัวหอม 1 ช้อนโต๊ะ ผงกระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ ซอสเผ็ด แล้วแต่ชอบ 4 ช้อนโต๊ะ ซอสเปรี้ยว 4 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ ผักชี ต้นหอม 1/2 ถ้วย วัตถุดิบ ปีกไก่ 24 ปีก วิธีทำ เริ่มกันเลยนะ นำ Cast Iron Skillet ตั้งบน Heavy Duty Grill Grate เราแยกผักชี ต้นหอมออก ใส่เกลือ และ พริกไทยลงไปเล็กน้อย นอกนั้นใส่ทุกอย่างลงใน Cast Iron Skillet ได้เลย เคี้ยวให้งวดประมาณ 20 นาที แล้วนำไปพักให้เย็นลง เท่านี้เราก็จะได้ซอส BBQ รสชาติตามต้นตำหรับอเมริกันแท้ๆแล้ว เห็นไหมว่าง่ายนิดเดียว ต่อมานำปีกใก่ทั้งหมดมาซับด้วยกระดาษให้แห้ง ทาเกลือ พริกไทย นำปีกไก่ทั้งหมดใส่ลงไปในถ้วยขนาดใหญ่หรือจะใช้ Enamel Mixing Bowl ก็ได้ แล้วเท 1/4 ของซอสที่เราทำก่อนหน้านี้ คลุกให้ทั่ว หมักไว้ 10 นาที (ถ้าเป็นไปได้หมักปีกไก่แช่ไว้ในตู้เย็นข้ามคืนจะดีมาก) ถึงเวลาปิ้งแล้วววว ถ้าใครหมักไก่ข้ามคืน เอาออกมาจากตู้เย็นก่อนซัก 25 นาทีนะ นำเจ้า griddle มาทาน้ำมันบางๆ แล้วตั้งบน Grill Grate ได้เลย พอgriddle เริ่มร้อน วางปีกไก่ด้านติดหนังไว้ข้างบน ทิ้งไว้ 30 - 35 นาที เริ่มพลิกปีกไก่ตอนผ่านไปแล้ว 15 นาที หลังจากที่ปีกไก่เริ่มกรอบก็ยกลงจากเตา นำปีกไก่ใส่ในถ้วยใบใหญ่แล้วคลุกกับน้ำซอสอีก 1 ถ้วย ขั้นตอนนี้สำคัญ ต้องให้แน่ใจนะว่าซอสเคลือบปีกไก่ทุกชิ้นอย่างทั่วถึง !!! ปิ้งต่อ อีกซัก 10 นาที หรือ ให้มั่นใจว่าไก่สุกทั้งชิ้น แล้วนำขึ้นจากเตา เราจะปิ้งข้าวโพดเพิ่มด้วยก็ได้นะ จะได้รู้สึกถึงความเป็น BBQ มากยิ่งขึ้นไปอีก ใส่จาน Enamel Plate ตกแต่งด้วย ผักชี ต้นหอมที่เตรียมไว้ เซริฟพร้อมกับน้ำซอสที่เหลือ อ่อ !! อย่าลืมเตรียมทิชชู่ไว้สำหรับเช็ดปาก เช็ดมือด้วย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน :) สูตรอาหาร และภาพสวยๆ จาก  By Brianne Dela Cruz; Gather & Grow CAMP STUDIO BAREBONES OFFICIAL THAILAND

  • ไม่ใช่เครปขั้นเทพที่ไหน แต่เป็นเครปง่ายๆที่ทุกคนทำได้แม้อยู่ในแคมป์

    สูตรจาก Ashley Rodriguez of Not Without Salt เมื่อ Ashley บอกว่าคุณทำอาหารนอกบ้านได้ เธอหมายถึงทำได้ทุกอย่างจริงๆแม้กระทั่ง เครป แป้งเครปที่ผสมเสร็จแล้วเป็นอะไรที่พกพาได้ง่าย แค่โยนใส่กระติกน้ำแข็งก็สามารถเก็บไว้ได้นานหลายวัน และคุณก็สามารถเลือกได้ว่าจะทำให้แป้งเครปนี้เป็นของหวานหรือของคาว วัตถุดิบ ไข่ไซส์ใหญ่ 2 ใบ นมวัว 1 1/4 ถ้วย เกลือ 1 หยิบมือ น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ ถ้าอยากทำเป็นของหวาน แป้ง 1 ถ้วย น้ำมัน หรือ เนย 1 ช้อนโต๊ะ วิธีการทำ ผสมไข่ และ นม ลงในชามขนาดใหญ่ หรือจะเป็น Enamel Mixing Bowl ตีส่วนผสมให้เข้ากัน หลังจากที่ไข่ และนมเข้ากันดีแล้วใส่ เกลือ น้ำตาล แป้ง และ น้ำมัน หรือ เนย ตามลงไปแล้วตีให้ทุกอย่างเข้ากัน ก่อไฟแล้ว นำ Fire Pit Grill Grate (Circular) ตั้งบนกองถ่านที่ร้อนระอุ ไม่ใช่กองไฟที่ลุกโชติช่วงนะ นำ Barebones Flat Pan มาตั้งไฟแล้วทาน้ำมัน หรือ เนย ให้ทั่ว ตักแป้งเครปที่ผสมเสร็จแล้ว ประมาณ 1/4 ของ แก้ว Enamel Cup เทลงไปบนกระทะแล้วหมุนกระทะ เพื่อให้เนื้อแป้งกระจายจนทั่ว ทิ้งให้เนื้อแป้งสุก วิธีสังเกตคือเนื้อแป้งดูแห้งขึ้น น่าจะใช้เวลาประมาณ 30-40 วินาที กลับแป้งเครป แล้วรอจนสีเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองน่าทาน แปลงโฉมเครปให้เป็นของหวานแสนอร่อย ทาแยมรสชาติที่ชอบ ลงไป 2-3 ช้อนโต๊ะ พับครึ่งทบแล้วพับอีกครึ่งจนกลายเป็นรูปทรงของพัด ถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้นลองทานพร้อมมาสคาโพนชีส ทานเครปเป็นของว่างให้คลายหิว ผสมต้นหอมซอยลงไปในเนื้อแป้งเล็กน้อยก่อนที่จะเทลงกระทะ หลังจากนำแป้งเครปที่สุกแล้วขึ้นจากเตาทาซาวครีมให้ทั่วโรยแซลมอนรมควันแล้วพับให้กลายเป็นรูปพัด ตบท้ายด้วยการโรยผักชีลาวตกแต่งทั้งสวยงามทั้งมีกลิ่นหอม อ่อ !!! ไม่ว่าจะเป็น คาว หรือ หวาน ต้องเซิรฟตอนเครปยังร้อนๆ นะ BAREBONES LIVING THAILAND OFFICIAL

  • เบอร์เกอร์สำหรับคนไม่ทานเนื้อสัตว์

    BAREBONES OFFICIAL THAILAND เลยมาแจกสูตร เบอร์เกอร์บาร์บีคิวหมูฉีกแบบไม่มีเนื้อสัตว์ เบอร์เกอร์ใช้บันที่เป็น Vegan ปิ้งพอให้กรอบ ประกบกับหอมแดงดองที่มีรสชาติเปรี้ยว สลัด Slaw ปิดท้ายด้วยเห็ดออรินจิผัดซอส BBQ เราใช้เห็ดออรินจิที่เนื้อหนาพอเราได้รู้สึกถึงการเคี้ยว ถ้าหิวแล้วลองไปดูสูตรกันเลย สำหรับ 6 ท่าน เวลาเตรียม 15 นาที เวลาทำ 20 นาที รวามแล้วใช้เวลาเพียง 35 นาทีเอง เครื่องปรุง เห็ด BBQ เห็ดออรินจิต้นใหญ่ 6 ต้น กระเทียมหั่นละเอียด 2 กลีบ น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ พริกปาปริกา 2 ช้อนโต๊ะ พริกคาเยน 1 ช้อนโต๊ะ ซอส BBQ แบบ Vegan 1.1/2 ถ้วย บันเบอร์เกอร์ แบบ Vegan 6 บัน สลัด Slow ผักเคลหันเป็นชิ้นๆ 1/4 ถ้วย ผักกาดเขียวหั่นเป็นชิ้นๆ 1/4 ถ้วย ผักกะหล่ำเขียวหั่นเป็นชิ้นๆ 1/2 ถ้วย ผักกะหล่ำม่วงหั่นเป็นชิ้นๆ 1/2 ถ้วย แครอทฝาน หรือ ซอย 1 หัว น้ำสลัด ColeSlaw แบบ Vegan หรือจะเป็น ตกแต่ง ตามชอบ มายองเนส Vegan หอมแดงดอง ขั้นตอนการทำ นำเจ้า All In One Cast Iron ไปตั้งไฟโดยตรง หรือจะใส่ในช่องใส่ฟืนก็ได้แต่อย่าลืมใส่ที่กันลมเพื่อคงความร้อนของถ่านไว้ ระหว่างที่รอเตาร้อนก็ฉีกเห็ดออรินจิใช้ส้อมค่อยๆตะกุยเนื้อเห็ดออกมาเป็นชิ้นๆ นำเห็นทั้งหมดไปคลุกน้ำมันมะกอก พริกปาปริกา พริกคาเยน และ ใส่ซอส BBQ แบบ Vegan ลงไปครึ่งนึงจากทั้งหมด คลุกให้เข้ากัน จากนั้นเมื่อเตาร้อนทาน้ำมันให้ทั่ว ใส่ทั้งหมดลงไปผัดประมาณ 15 นาที ระหว่างรอเห็ด BBQ สุก นำผักทั้งหมดที่จะใช้ทำสลัดมาคลุกกับน้ำสลัด ColeSlaw แบบ Vegan แล้วพักไว้ กลับไปที่เห็ดอีกรอบ ใส่ซอส BBQ ที่เหลือลงไป นำตะแกรงปิ้งของ All In One Cast Iron มาปิดด้านบน สำหรับปิ้งบันเบอร์เกอร์ เท่านี้ทุกอย่างก็ได้ที่พร้อมๆกันไม่เสียเวลา นำทุกอย่างออกจากเตา ตกแต่งเบอร์เกอร์ของคุณให้สวยงาม แล้วก็ลงมือทานได้เลย ขอบคุณสูตรจาก  By Brianne Dela Cruz; Illume Co. BAREBONES OFFICIAL THAILAND

bottom of page