top of page

Search Results

73 items found for ""

  • CHEESY SKILLET POTATOES มันฝรั่งชีสสเคล

    สูตรอาหารโดย Missy Workman & ภาพถ่ายโดย Holly Booth คุณกำลังมองหาเมนูที่สมบูรณ์แบบเพื่อยกระดับงานเลี้ยงหรือวันหยุดของคุณหรือไม่? ไม่ต้องมองหาที่ไหนอีกแล้ว! Cheesy Skillet Potatoes ของเราพร้อมเสิร์ฟแล้ว สูตรที่น่ารับประทานนี้ให้ความรู้สึกของอาหารแบบ comfort food โดยผสมผสานมันฝรั่งเนื้อนุ่ม ซอสชีสครีมเข้มข้น และท็อปปิ้งสีทองกรอบ สูตรนี้เป็น one-pot (skillet) ที่ปรุงสุกอย่างสมบูรณ์แบบในกระทะเหล็กหล่อที่กักเก็บความร้อนได้ยอดเยี่ยม ช่วยให้มั่นใจได้ว่า Cheesy Skillet Potatoes ของคุณจะอุ่น และอร่อยตั้งแต่วินาทีแรกที่ออกจากเตาอบจนคำสุดท้าย ไม่ว่าคุณจะเสิร์ฟอาหารในวันเทศกาลหรือเพียงแค่สังสรรค์กับคนที่คุณรักในช่วงวันหยุด Cheesy Skillet Potatoes จะนำความอบอุ่น และความสุขมาสู่โต๊ะอาหารของคุณ ดังนั้น ดื่มด่ำสัมผัสบรรยากาศสบาย ๆ และลิ้มรสมันฝรั่งเต็มคำ มาดูอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณทำเมนูนี้ได้อย่างง่ายดาย Cast Iron Skillet Heavy Grill Grate Enamel Mixing Bowls วิธีทำ | สำหรับ 6 เสิร์ฟ | เวลาเตรียม : 30 นาที | | เวลาทำอาหาร : 50 นาที-1 ชม. และ 25 นาที | | ระยะเวลาทั้งหมด : 1-2 ชม | วัตถุดิบ มันฝรั่งสีน้ําตาลขนาดกลาง 5-6 ลูกล้างและปอกเปลือก ½ เนยถ้วย เฮฟวี่ครีม 2 ถ้วย นมสด 2 ถ้วย เชดดาร์ขาว 1 ถ้วย ขูด เชดดาร์ขนาดกลาง 2 ถ้วย ขูด ¼ ถ้วยแป้ง เกลือ 2 ช้อนชา พริกไทย 1 ช้อนชา โหระพา 2 ช้อนชา หอมแดงขนาดเล็ก 1 ชิ้นหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า วัสดุ กระทะเหล็กหล่อ ตะแกรงย่าง ช้อนไม้ คำแนะนำก่อนอบ หั่นมันฝรั่งหนาประมาณ 1/8 นิ้วแล้ววางในชามน้ำเย็นเพื่อเอาแป้งออก ในขณะที่มันฝรั่งกําลังแช่อยู่ ให้ตั้งกระทะหรือกระทะเหล็กหล่อให้ร้อน ใส่เนยและแป้งลงไป ปล่อยให้ปรุงด้วยไฟปานกลางจนเริ่มเป็นฟอง ใส่หอมแดงหั่นลูกเต๋าลงในส่วนผสมของเนย/แป้ง พร้อมด้วยเกลือ พริกไทย และโหระพา ใส่นมและเฮฟวี่ครีมตีจนเข้ากันดี ปล่อยให้เคี่ยวบนไฟอ่อน กวนเป็นระยะๆ จนกระทั่งน้ำเกรวี่ข้นสม่ำเสมอ ผสมชีสเข้าด้วยกันแล้วพักไว้ สะเด็ดน้ำมันฝรั่งและเติมซอสลงไปที่ด้านล่างของกระทะ เพิ่มชั้นของมันฝรั่ง ตามด้วยซอสบางๆ แล้วโรยด้วยชีส ทำซ้ำขั้นตอนแบ่งชั้น โดยปิดท้ายด้วยซอสและชีสด้านบน วิธีการอบ ปิดฝาและวางในเตาอบ 350 องศาเป็นเวลา 20 นาที เปิดฝาออกแล้วปล่อยให้ปรุงจนมันฝรั่งนิ่มและชีสมีสีน้ำตาลเล็กน้อย วิธีการย่าง เตรียมเตาย่างและเตรียมถ่านให้พอเหมาะ วางกระทะบนถ่านหรือตะแกรงย่าง เติมถ่านลงไปบนฝาและปล่อยให้ปรุงเป็นเวลา 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง หากคุณได้กลิ่นไหม้ ให้เปลี่ยนถ่านตามต้องการ ด้วยความอดทนเพียงเล็กน้อยและการเปลี่ยนถ่าน คุณก็จะมีเมนูมันฝรั่งที่น่าทึ่งในไม่ช้า! BAREBONES OFFICIAL THAILAND CAMPSTUDIO THAILAND

  • คุณเคยสงสัยไหมว่าโหมด Red Light มันมีฟังก์ชั่น และประโยชน์อะไร? (และทำไมคุณถึงควรใช้มัน)

    เมื่อคุณไปตั้งแคมป์หรือเดินป่าในที่ ที่ห่างไกล Red Light สามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย  เพิ่มความสะดวกสบาย ความสวยงาม สนุกสนาน  ทำให้ช่วงเวลากลางคืนมีคุณภาพ และน่าจดจำมากขึ้น เผลอๆมันอาจช่วยชีวิตของคุณได้ ไฟคาดหัวสำหรับเดินป่า และตั้งแคมป์ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงความสว่าง และความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชันที่น่าทึ่งอีกมากมาย หากคุณเคยใช้ไฟคาดหัวรุ่นเก่าที่มีเพียงลำแสงสีขาวสองระดับ (สูงและต่ำ) คุณจะต้องประหลาดใจกับไฟคาดหัวรุ่นใหม่อย่าง HEADY + หรือ HEADY 3 รุ่นนี้มาพร้อมกับการตั้งความสว่าง 5 ระดับ โทนสีตั้งแต่ cool ไปจนถึง warm  พร้อมฟังก์ชันไฟสีแดง SoS ให้คุณมีตัวเลือกที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ นี่คือตัวอย่างรูปของ CLAYMORE   HEADY + ซึ่งออกแบบมาเพื่อการใช้งานกลางแจ้ง เช่น การเดินป่าและตั้ง แคมป์ คุณสมบัติหลักคือมีไฟ LED ที่สามารถปรับระดับแสงได้หลากหลาย  พร้อมโหมดไฟสีแดงสำหรับวิสัยทัศน์กลางคืน Red Light บน Headlamps กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับการวิ่ง  ปั่นจักรยาน และตั้งแคมป์ แต่ จริงๆ แล้วมันมีไว้ทำอะไร? มันอาจเพิ่มบรรยากาศพิเศษให้กับการเล่าเรื่องรอบกองไฟหรือทำให้เด็กๆ ตื่นเต้นกลัวได้ใช่ไหม? ใช่ ถ้าคุณต้องการ แต่ไฟสีแดงมีประโยชน์มากกว่านั้น ตั้งแต่การปรับปรุง ประสบการณ์กลางคืนของคุณไปจนถึงการช่วยชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉิน การรักษาการมองเห็นตอนกลางคืน หนึ่งในเหตุผลหลักที่ไฟหน้ามีฟังก์ชันแสงสีแดง คือการช่วยรักษาการมองเห็นในที่มืด เมื่อเทียบกับแสง สีขาว ดวงตาของคุณจะไวต่อแสงสีแดงน้อยกว่า ซึ่งช่วยให้ดวงตาของคุณปรับตัวเข้ากับความมืดได้ดี ขึ้น ทั้งในระหว่าง และหลังการใช้งาน ในขณะที่แสงสีขาวเมื่อปิดไฟ คุณอาจรู้สึกตาพร่าไปชั่วขณะ คุณสามารถใช้ลำแสงต่ำเพื่อช่วยในการมองเห็นได้ แต่ถ้าเลือกใช้ไฟคาดหัวที่มีฟังก์ชันแสงสีแดงแทน  คุณจะมองเห็นรอบข้างได้ดีกว่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อมีสิ่งกีดขวาง สัตว์ป่า หรือ อันตรายอื่นๆ บนเส้นทาง นอกจากนี้ คุณยังไม่ต้องเสียเวลาปรับสายตาหลังจากปิดไฟอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อโต้แย้งว่าการใช้แสงสีขาวขณะตั้งแคมป์อาจยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ แต่ถ้าเลือกใช้แสงสีแดงก่อนนอนหรือขณะอ่านหนังสือในเต็นท์ จะ ช่วยให้คุณหลับได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการพักผ่อนและนอนหลับสนิทขณะตั้งแคมป์ การเปลี่ยนไฟหน้าของคุณเป็นโหมดแสงสีแดงเป็นวิธีที่เป็นมิตรและเหมาะสำหรับการสำรวจ  ไม่ทำให้เพื่อนของคุณแสบตา การใช้ไฟสีขาวที่สว่างจ้าในขณะที่เพื่อนของคุณเดินผ่านที่ตั้งแคมป์ ในเวลากลางคืนอาจทำให้เกิดปัญหาได้ ฟังก์ชันแสงสีขาวใน Headlamps ของคุณไม่เพียงแค่ลด การมองเห็นของคุณ แต่ยังอาจทำให้เพื่อนของคุณตาพร่ามัว ซึ่งน่ารำคาญและอาจเป็นอันตรายในบาง สถานการณ์    เมื่อคุณเดินป่าตอนดึก นั่งคุยในเก้าอี้ตั้งแคมป์ หรือเดินไปรอบ ๆ แคมป์หลังจากที่เพื่อนของคุณเข้า นอน การเปลี่ยนไฟคาดหัวของคุณเป็นแสงสีแดงเป็นวิธีที่ดีในการสำรวจโดยไม่รบกวนคนอื่น ป้องกันแมลงที่อาจรบกวนคุณ แสงสว่างในที่ตั้งแคมป์ของคุณในตอนกลางคืน ซึ่งอาจนำไปสู่การ เข้ามาของแมลงที่ไม่พึงประสงค์ ในเต็นท์ของคุณ ส่งผลให้คุณต้องเผชิญกับการกัดและอาการคันในวัน ถัดไป การเปลี่ยนไฟคาดหัว ของคุณเป็นสีแดงจะช่วยลดการมาของแมลงเหล่านี้ ทำให้การตั้งแคมป์ของคุณมีความสุขมากขึ้น การชมดาวแสงสีแดงช่วยรักษาการมองเห็น  ดวงตาของคุณอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการปรับตัวให้เข้ากับความมืดหลังจากอยู่ในที่สว่าง  ดัง นั้นการใช้แสงสีแดงจะช่วยให้ดวงตาปรับตัวได้เร็วขึ้น  ซึ่งจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การดูดาวที่ สวยงามยิ่งขึ้น ในตอนกลางคืน ทำให้เป็นโหมดที่ดีที่สุดสำหรับ การดูดาว ในคืนที่อากาศแจ่มใสและพระจันทร์ ใกล้จะเต็มดวง คุณอาจไม่ต้องการแสงใด ๆ เลย ขณะชมดาว แต่เมื่อเดินทางไปยังจุดชมดาวและ เคลื่อนที่ไปรอบๆ ควรใช้ฟังก์ชันแสงสีแดงเพียงอย่างเดียว เพื่อไม่ให้รบกวนการมองเห็นของคุณ การลดมลพิษทางแสง มลพิษทางแสงหมายถึงการใช้แสงประดิษฐ์มากเกินไปในเวลากลางคืน ซึ่งมี ผลกระทบต่อสัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม แม้ว่าปัญหานี้จะพบมากในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น แต่การใช้ ไฟสีขาวมากเกินไป ในขณะที่ตั้งแคมป์ในชนบทก็อาจส่งผลกระทบต่อแมลง สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์เลี้ยง ลูกด้วยนม และนกในท้องถิ่น การรักษาแสงสีขาวให้เหลือน้อยที่สุดและพึ่งพาแสงสีแดงมากขึ้น จะช่วย ลดการรบกวนที่เกิดจากการปรากฏตัวของคุณต่อสัตว์ป่าในบริเวณนั้น ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ฟังก์ชันไฟสีแดงบน Headlamps ของคุณช่วยยืดอายุการใช้งาน แบตเตอรี่ได้ หากคุณลืมพกแบตเตอรี่สำรองหรือต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่หลงทาง ควรเปลี่ยนมาใช้ ไฟสีแดง ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้ Headlamps ของคุณทำงานได้นานขึ้น สถานการณ์ฉุกเฉิน แม้ว่าไฟ SoS สีแดงบน Headlamps ของคุณอาจดูไม่จำเป็นในขณะที่คุณเดินป่า  แต่ฟังก์ชันนี้สามารถเป็น เครื่องมือความปลอดภัยที่สำคัญได้  หากคุณติดอยู่หรือได้รับบาดเจ็บและกำลังรอความช่วยเหลือ ฟั งก์ชันไฟสีแดงบนไฟหน้าของคุณจะ ช่วยให้ทีมกู้ภัยหรือเพื่อนสามารถค้นหาคุณในที่มืดได้ง่ายขึ้น CLAYMORE THAILAND CAMPSTUDIO

  • ดับไฟแห่งความเครียด สู่ แสงแห่งการพักผ่อน กับ CLAYMORE Lamp

    ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี แสงไฟสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์ มือถือ และคอมพิวเตอร์ ส่งผลเสียต่อการนอนหลับและการผ่อนคลายของเรา และการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต หลายคนคงอยากโยนมือถือ ปิดทีวี หาอะไรผ่อนคลายก่อนนอน แต่บางทีแสงไฟจากหลอดไฟเพดานก็ดูจ้าเกิน ไป ดังนั้นการเลือกแสงไฟที่เหมาะสม จึงช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและพร้อมสำหรับการนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น Claymore Lamp จึงถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยใช้แสงไฟสีอ่อนที่ช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ส่งผลให้นอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมความสดชื่น รู้สึก ผ่อนคลายพร้อมเริ่มต้นวันใหม่ เราจึงตั้งใจคัดสรรโคมไฟ Claymore หลากหลายรุ่น พร้อมคุณสมบัติพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อมอบแสงสว่างที่ เหมาะกับการผ่อนคลาย ดังนี้ CABIN IVORY ดับไฟ ปิดหน้าจอ ปล่อยใจให้ผ่อนคลายกับแสงสว่างนุ่มนวล กับ CLAYMORE Cabin Cabin มีความโดดเด่นด้วยรูปทรงตะเกียงที่มีวัสดุใสเหมือนแก้ว ผสมผสานความคลาสสิกและทันสมัยได้อย่าง ลงตัว โครงสร้างแข็งแรงทนทาน แต่ยังคงความโปร่งแสง ให้แสงสว่างส่องผ่านได้อย่างนุ่มนวล ช่วยสร้าง บรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลายได้ในทุกที่ที่คุณต้องการ นอกจากนี้ แสงไฟสีนวลอ่อนยังถูกออกแบบมาเพื่อไม่รบกวนการนอนหลับ ช่วยให้คุณหลับสนิทตลอดคืน ตื่นมา อย่างสดชื่น พร้อมรับวันใหม่ ไม่ว่าจะวางไว้ข้างเตียง มุมโปรดในห้องนั่งเล่น หรือพกพาไปแคมป์ปิ้ง ดีไซน์เรียบหรู สไตล์วินเทจของ Cabin ก็ เข้ากับทุกบรรยากาศ พร้อมเติมเต็มความพิเศษให้ทุกช่วงเวลา แม้แสงไฟสลัวจากตะเกียง Cabin จะส่องประกาย... แต่ความงามที่บอบบางนี้ ยังต้องการการปกป้องอย่างเหมาะสม เพื่อให้แสงแห่งความทรงจำนี้คงอยู่ตลอดไป ดังนั้น CLAYMORE CABIN POUCH จึงถูกผลิตออกมาให้เป็นดั่งอ้อมกอดที่อ่อนโยนแต่แข็งแกร่ง เพื่อโอบรับตะเกียง Cabin จากรอยขีดข่วนและการกระแทกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง SELENE "Selene ไม่ใช่แค่ตะเกียง แต่คือ Lifestyle" Selene คือผลงานศิลปะที่ได้รับรางวัล IF Design Award การันตีความงามสง่าเหนือกาลเวลา ด้วยดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย เข้ากันได้กับทุกมุม ไม่ว่าจะห้องนั่งเล่นสุดชิค หรือเต็นท์แคมป์ปิ้งสุดเท่ ก็เพิ่มความอบอุ่น ผ่อนคลายได้ ทุกที่ สิ่งที่ทำให้ Selene โดดเด่นเหนือใคร คือโทนแสงอบอุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนโดยเฉพาะ แสงสีนวลๆ ช่วยลดความตึงเครียด ผ่อนคลายสบายตา และเตรียมร่างกายให้พร้อมเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยระยะเวลาส่องสว่างยาวนานถึง  55 ชั่วโมง หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด ระหว่างคืน ทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย นอนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม สบายใจ Selene คือไอเท็มคู่ใจที่สาย outdoor ต้องมี สายปาร์ตี้ต้องเลิฟ เพราะ Selene คือตัวช่วยสร้างบรรยากาศสุดโร แมนติกให้ทุกงานเลี้ยง เพิ่มความอบอุ่นและความทรงจำดีๆให้ทุกทริป มีให้เลือก 2 สี    สีขาว คลาสสิก สบายตา  และ สีดำ ลึกลับ น่าค้นหา  เลือกสีที่บ่งบอกความเป็นคุณได้เลย และเพื่อให้ตะเกียง Selene คู่ใจของคุณคงความสง่างามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน เราขอแนะนำ CLAYMORE CASE FOR SELENE [SELENE POUCH] กระเป๋าสุดหรูที่จะโอบอุ้มตะเกียง Selene ของคุณอย่างทะนุถนอม  ด้วยวัสดุคุณภาพและดีไซน์ที่ออกแบบมาเป็น พิเศษเพื่อ Selene โดยเฉพาะ มั่นใจได้ว่าตะเกียงคู่ใจของคุณจะปลอดภัยทุกการเดินทาง แถมยังเป็นพร็อพถ่ายรูปสุดเก๋ ที่จะเปลี่ยนรูปแคมป์ปิ้งธรรมดา ให้กลายเป็นภาพแห่งความทรงจำสุดประทับใจ ได้อีกด้วย ATHENA Athena ตะเกียงที่สามารถกันยุงได้จาก CLAYMORE โดดเด่นด้วยดีไซน์คลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทพีแห่ง ปัญญาและสงคราม ผสานเทคโนโลยีทันสมัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรักธรรมชาติและการผจญภัย ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวและแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ เพราะนอกจากจะมอบแสงไฟโทนอบอุ่นแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศสบายๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อน อ่านหนังสือ หรือสังสรรค์รอบกองไฟ ให้คุณดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุขได้อย่างเต็มที่ จุดเด่นของตะเกียงรุ่นนี้คือ  มาพร้อมฟังก์ชันไล่ยุง เพียงใส่แผ่นไล่ยุงที่ ช่องด้านบน ก็สามารถขับไล่ยุง และแมลงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณนอนหลับสนิทตลอดคืน ไม่ว่าจะตั้งแคมป์ในป่าหรือ นอนเล่นในสวนหลังบ้าน ใช้งานได้ยาวนานถึง 75 ชั่วโมง ชาร์จเพียงครั้งเดียวก็ใช้งานได้ตลอดทริป แถมยังมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก พร้อมผจญภัยไปกับคุณได้ทุกที่ MULTI FACE X/L   CLAYMORE MULTI FACE คืนนี้... แสงดาวและแสงไฟ จะส่องประกายไปด้วยกัน เมื่อท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ประดับประดาไปด้วยแสงระยิบระยับของดวงดาวมากมาย นั่นคือ สัญญาณว่าธรรมชาติกำลังเชื้อเชิญให้คุณเข้าสู่อ้อมกอดอันเงียบสงบ และเพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความ งดงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเต็มที่ มารยาทสากลบนพื้นที่แคมป์จึงแนะนำให้เราปิดไฟในเวลา 4 ทุ่ม แต่หากเปลวไฟในใจคุณยังไม่มอดดับลงง่ายๆ หากคุณยังอยากนั่งผ่อนคลาย อ้อยอิ่งอยู่กับบทสนทนาที่แสน อบอุ่น หรืออ่านหนังสือเล่มโปรดให้จบ... ไม่ต้องกังวล เพราะแสงส้มละมุนจาก  "CLAYMORE MULTI FACE" จะช่วยเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณได้อย่างลงตัว เพียงแค่ปรับระดับแสง จากสว่างจ้า เป็นแสงส้มนวลตาที่อบอุ่น และ สบายตา คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับ กิจกรรมยามค่ำคืนได้โดยไม่รบกวนเพื่อนร่วมแคมป์ แสงส้มอ่อนๆนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณผ่อนคลาย แต่ยังสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้ค่ำคืนแคมป์ปิ้งของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น ลองหลับตาลง... แล้วนึกภาพแสงไฟสีส้มอบอุ่นส่องกระทบใบหน้าคนที่คุณรัก ท่ามกลางเสียงจิ้งหรีดเรไรและ สายลมเย็นๆ พัดผ่าน... นี่แหละคือความมหัศจรรย์ของ  CLAYMORE MULTI FACE ที่จะเปลี่ยนค่ำคืนธรรมดา ของคุณ ให้กลายเป็นความทรงจำแสนพิเศษที่ไม่อาจลืมเลือน และเพื่อให้ค่ำคืนแสนพิเศษของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น  CLAYMORE MULTI FACE ยังควบคุมง่ายผ่านแอปฯ บนมือถือ ปรับแสงหรี่ไฟได้ดั่งใจ แถมยังใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม  CLAYMORE Medal, CLAYMORE UF5 และ  CLAYMORE MULTI WING ยกระดับประสบการณ์แคมป์ปิ้งของคุณให้เหนือระดับยิ่งขึ้น เหมือนมีแสงจันทร์ ส่วนตัวที่คุณสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ เปลี่ยนค่ำคืนให้เป็น "ยามพักผ่อนอันแสนสบาย" เพื่อสุขภาพที่ดี ทั้งกายและใจ เพราะแสงไฟที่ดี ไม่ใช่แค่ส่องสว่าง แต่ เติมเต็มพลัง ให้ชีวิต CAMP STUDIO CLAYMORE

  • เติมเต็มความสุขทุกเทศกาลด้วยของขวัญสุดพิเศษจาก CAMPSTUDIO

    เคยไหม? เวลาเลือกของขวัญให้ใครสักคนแต่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามหวัง...คนรับหน้าเฉยจนคุณเกือบหน้าเสีย! อย่าให้ความสุขสะดุดกลางทาง มาที่ CAMPSTUDIO ที่เดียว จบครบทุกไอเดีย ของขวัญสุดพิเศษ ที่ทั้งดีไชน์เก๋ฟังก์ชันครบ และใช้งานได้จริงทุกสถานการณ์ จะของขวัญชิ้นไหนก็เติมเต็มโมเมนต์วันสำคัญของคุณให้ประทับใจยิ่งกว่าที่เคย... 1. Snow Peak Mini Hozuki โคมไฟมินิมอลที่พกพาง่ายสร้างบรรยากาศอบอุ่นในแบบที่คุณต้องหลงรัก ใช้ได้ทั้งที่แคมป์หรือในมุมโปรดของบ้าน เติมเต็มทุกค่ำคืนให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ฟังก์ชันแม่เหล็กเก๋ๆที่คุณสามารถนำไปติดกับเหล็กตรงไหนก็ได้ ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย เปลี่ยนไฟสว่างๆ แล้วมาสร้างบรรยากาศอบอุ่นกัน สั่งซื้อได้ที่ >> Mini Hozuki 2. Claymore Cabin Lamp ไฟตะเกียงที่สายแคมป์ และสายแต่งบ้านต้องหลงใหล ให้แสงนุ่มแบบไม่แยงตาแถมยังปรับแสงได้4โหมต ใครเปลี่ยนฟีลห้องนั่งเล่นธรรมดาให้รู้สึกอบอุ่นต้อนรับช่วงเทศกาลให้ Cabin จาก CLAYMORE ช่วยจัดการ สั่งซื้อได้ที่  >> Cabin Lamp 3. Toyo Steel Toolbox T-190 กล่องเหล็กที่ดูภายนอกเหมือนจะธรรมดาแต่ทนทานขั้นสุดเก็บของแคมป์ก็สบายใช้ในบ้านก็เก๋ มีให้เลือกหลากสี หลายทรง ตอนรับทุกความต้องการ จะหาของขวัญให้คุณพ่อบ้านใส่เครื่องมือช่างก็ต้อง TOYO เท่านั้นเลย สั่งซื้อได้ที่  >> Toyo Steel 4. Claymore Handy A Fan พัดลมใหม่ล่าสุดจาก CLAYMORE พัดลมพกพาที่ใช้งานได้ทุกฤดู พกติดตัวไปเที่ยวก็เท่ ใช้ในบ้านก็เจ๋ง เป็นของขวัญที่คนรับต้องอยากหยิบมาใช้ทันที มีแบบนี้ในมือก็รู้สึกคูลขึ้นอีก30% สั่งซื้อได้ที่  >> Handy A Fan 5. DoD Usagi Mini Wallet กระเป๋าใบเล็กที่ทั้งน่ารัก และทนทาน ใส่ได้ทั้งเงิน การ์ด หรือของจุกจิก เหมาะกับสายเดินทางที่ไม่ต้องการกระเป๋าหลายใบให้ต้องคอยกังวลใจ Usagi Mini Wallet ใบเดียวครบ ถ้าอยากเพิ่มความจุก็ห้อยของเพิ่มได้เลยเค้าทำช่องมาให้แล้ว เรียกว่าใครได้ไปทุกครั้งที่ใช้ก็จะรู้สึกว่าเราใส่ใจเค้าจริงๆ สั่งซื้อได้ที่  >> Usagi Mini Wallet 6. Kermit Chair STD Oak เก้าอี้ที่เป็นมากกว่าที่นั่ง.. ดีไซน์คลาสสิกใช้งานได้ทั้งในบ้าน และที่แคมป์ด้วยวัสดุไม้โอ๊คสุดหรูที่ใครเห็นต้องร้อง"ว้าว" ไม่ใช่แค่ Furniture แต่มันคือของสะสม เราจะหาเก้าอี้ไม้ทำมือทั้งตัวได้ง่ายๆในพ.ศ.นี้เหรอ เอาเป็นว่าให้ใครเป็นของขวัญก็มีเรื่องเล่าให้นั่งคุยกันได้อีกทั้งคืน สั่งซื้อได้ที่  >> Kermit Chair STD 7. Nalgene Water Bottle ขวดน้ำที่ทนทาน พกไปแคมป์ก็อุ่นใจใช้ในชีวิตประจำวันก็ไม่ตกเทรนด์ จะดื่มน้ำเย็นน้ำร้อน ก็เอาอยู่หมดปลอดสาร BPA 100% ปลอดภัยต่อสุขภาพ ทั้งเด็ก และผุ้ใหญ่ ไม่ส่งผลกระทบต่อรสชาติของน้ำ ดีต่อกาย และดีต่อใจอีกด้วย ใช้งานได้จริงแบบไม่ได้มาเล่นๆ สั่งซื้อได้ที่  >> Nalgene Water Bottle 8. Barebones Mini Edison Lantern ตะเกียงที่ให้ทั้งความสว่าง และความเท่ห์ ใช้ได้ทั้งถ่าน AA หรือเสียบ USB เข้ากับ Power Bank พกพาง่ายแขวนสะดวก สร้างบรรยากาศอบอุ่นในทุกที่ทั้ง indoor และ outdoor เหมาะเป็นของขวัญที่จะทำให้ทุกคน"สว่างสดใส"ในทุกๆวัน สั่งซื้อได้ที่  >> Mini Edison Lantern ให้ CAMPSTUDIO เติมเต็มทุกโมเมนต์ มาที่เดียวก็ครบทุกไอเดียของขวัญ ตั้งแต่สายแคมป์ยันสายแต่งบ้าน เพราะที่ CAMPSTUDIO เราคัดสรรแต่ ของว้าวๆที่ทำให้คนรับประทับใจไม่รู้ลืม เปลี่ยนวันธรรมดาให้เป็นช่วงเวลาพิเศษด้วยของขวัญที่ใช่จาก CAMPSTUDIO CAMPSTUDIO THAILAND

  • Bluenote Stove เตาแอลกอฮอล์พกพาขนาดเล็กจาก Evernew

    Bluenote Stove เป็นเตาที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ทุกสถานการณ์ มีความคงทนทานสูงและสามารถทนต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันได้ เช่น ในที่สูง ในที่อากาศหนาว หรือในที่ที่มีลมแรง อันที่จริง  BLUENOTE มาจากคําภาษาญี่ปุ่น ใช้สำหรับมือสีน้ำเงิน เปรียบเสทือนเปลวไฟ สีน้ําเงินสิบดวงกระจายเหมือนมือที่ลูบไล้ถ้วย Bluenote Stove มีทั้งหมด 3 แบบ Bluenote Stove Pre Heating Plate Bluenote Stove Set   จุดเด่นของเตานี้คือ สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งสามขา น้ำหนักเบาพิเศษ วัสดุทำจาก อลูมิเนียม ขนาด: เส้นผ่านศูนย์กลาง 50 x 32 mm/ เส้นผ่านศูนย์กลาง 62 x 7 mm Bluenote Stove มีน้ำหนักเพียง 13 กรัม, Bluenote Stove Set  น้ำหนักเพียง 20 กรัม กะทัดรัดพกพาได้ง่าย ใช้เวลาน้อยสำหรับการเผาไหม้ ให้ความร้อนที่ทั่วถึงเท่าๆกันทั้งเตา  ช่วยประหยัดแอลกอฮอล์และมีประสิทธิภาพการเผาไหม้สูง ความจุเชื้อเพลิงสูงสุดคือ 15ml. เตา Bluenote สามารถต้มน้ำ 330ml. ภายใน 5 นาทีด้วยการเทแอลกอฮอล์เพียงครั้งเดียว ใช้กับถ้วยขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 12 ซม จับคู่ได้กับ Ti 400FD Cup ได้อย่างสมบูรณ์  Ti 400FD Cup ขอบถ้วยที่ถูกม้วนออกแบบมา เพื่อให้เทได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยังมีขีดบอกปริมาตรด้านในเพื่อให้วัดได้ง่าย วัสดุทำจากไทเทเนียม น้ำหนัก 50 กรัม (1.76 ออนซ์)  ขนาด 9.5 x 5.8 ซม. ความจุ 400 ml นำเตา Bluenote ของเราเก็บในหม้อได้เลย ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้เป็นอย่างดี Option เสริม เรายังมี  CASE FOR TI 400FD สำหรับกันกระแทก ใส่ได้พอดีแบบแนบสนิทเคสนี้ยังช่วยให้อาหารของคุณร้อนได้นานขึ้น บางสภาพอากาศที่เย็นลมแรงมีผลกระทบต่อ เปลวไฟแอลกอฮอล์ ดังนั้นชิลด์บังลมจึงจําเป็นสําหรับการใช้งานกลางแจ้ง Ti9G Windshield   ใช้งานได้ดีกับ "เตา BLUENOTE⁺" ที่กั้นลมและดักจับออกซิเจนในปริมาณปานกลาง สามารถม้วนเก็บไว้ในถ้วย "Ti 400FD Cup" วัสดุทำจาก ไทเทเนียม 0.1 มม น้ำหนัก: ประมาณ 9 กรัม เส้นผ่านศูนย์กลาง: 130 mm or 110 mm H = 60 mm ให้ Bluenote Stove จาก Evernew เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับใครที่กำลังมองหาเตาแอลกอฮล์พกพาขนาดเล็ก EVERNEW CAMP STUDIO

  • ท้าทายขีดจำกัดของคุณกับ ULTRA™

    มารวมกันตรงนี้เหล่า Trekker ทั้งหลายมารู้จักผ้าที่เหนือกว่าทุกสิ่งไปด้วยกัน ถ้าคุณมองหาสินค้า Ultralight ในช่วง 2-3 ปีนี้ ULTRA FABRIC คงผ่านตาคุณไปบ้างแล้ว อย่างกระเป๋าใบเล็ก หรือ เป้สะพายหลัง Zpacks ทั้งสีดํา และสีเทา หัวใจหลักของ ULTRA™ คือ ทนทาน น้ําหนักเบา และกันน้ําได้ดีเยี่ยม ULTRA™ แข็งแกร่งกว่าเหล็ก มาถึง 15 เท่า พูดในเชิงโครงสร้างมันเป็นผ้าทอคอมโพสิต UHMWPE คล้ายกับ Dyneema แต่วิธีผลิต ULTRA™ เส้นใย UHMWPE จะถูกทอด้วยโพลีเอสเตอร์ที่มีความเหนียวสูง และเคลือบด้วยฟิล์ม Challenge RUV™ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กันน้ํา และทนต่อรังสียูวี ขอบคุณภาพจาก challenge-outdoor.com ตามที่ผู้ผลิตกล่าวว่า “UHMWPE ถูกสร้างขึ้นโดยกระบวนการอัดขึ้นรูปด้วย gel-spun ซึ่งดึงโพลีเอทิลีนที่ยาวมากออกมา เรียงตามแนวแกนหลักของโมเลกุล การจัดตําแหน่งนี้ถ่ายเทน้ำหนักผ่านเส้นใยได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ECOPAK คือ “ผ้าคอมโพสิตเพียงตัวเดียวในโลกที่ทําจากเส้นใย และฟิล์มรีไซเคิล 100%" ขั้นตอนการเคลือบของพวกเขาลอดสารพิษ แม้กระทั่งแผ่นหลังรองฟิล์ม Challenge RUV เพื่อการกันน้ําและทนต่อรังสียูวีก็ถูกรีไซเคิล 100% หาได้ที่ไหน ? Arc Haul UltraEPX 60L Backpack ทั้งสี Tropical Teal และ สี Lilac คุณควรอัพเกรดเป็นกระเป๋าเป้ Challenge ULTRA หรือไม่? หากคุณมีเป้แพ็ค Dyneema อยู่แล้ว การอัพเกรดจะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่ก็ยังคุ้มค่าที่จะพิจารณา หากคุณกําลังใช้กระเป๋าที่ทําจาก Robic Nylon, Cordura Nylon หรือไนลอนริปสต็อปที่คล้ายกัน เราขอแนะนําให้อัพเกรดทันทีที่คุณมีงบ คุณจะได้ความทนทาน และรีดน้ําหนักออกไปได้มากขณะเดียวกันคุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการสวม Rain Cover อีกต่อไปเพราะ ULTRA กันน้ําได้ ข้อมูลเพิ่มเติมเผื่อใครอยากรู้ลึกไปกว่านั้น เมื่อเทียบกับ Dyneema®, Spectra® และสิ่งทอ UHMWPE อื่น ๆ ที่มีดีเนียร์ที่เทียบเคียงได้ ULTRA มีน้ําหนักเบากว่า 20% พร้อมความทนทานต่อการเสียดสี 4 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ Cordura® ขนาด 500d 8 oz sq/yd แล้ว  Challenge ULTRA 100d, ขนาด 3 oz sq/yd นั้นเบากว่า 63% และมีความแข็งแรงฉีกขาดและทนต่อการเสียดสีเกือบ 2 เท่า Challenge ULTRA™ 100D, 200D, 400D, 800D เหล่านี้เป็นผ้าทอชั้นนำ Challenge ULTRA™ เป็นผ้าคอมโพสิต UHMWPE เคลือบด้วยฟิล์มกันน้ําและทนต่อรังสียูวีที่เรียกว่า Challenge RUV มีจําหน่ายในดีเนียร์ที่แตกต่างกันสี่แบบ (100d, 200d, 400d, 800d) ซึ่งสอดคล้องกับน้ําหนักผ้าที่แตกต่างกันสี่แบบ (2.92, 3.5, 4.65 และ 8.5 ออนซ์ต่อตารางหลา) โดยทั่วไปกระเป๋าเป้หลังจะใช้ 100D หรือ 200D สําหรับตัวหลัก และ 200D หรือ 400D ในบริเวณที่มีการเสียดสีสูง เช่น ด้านล่างและด้านข้าง Challenge ECOPAK™ (EPX, EPLX) EcoPak™ เป็นผ้าที่ทนทานและกันน้ําซึ่งสร้างขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล 100% รวมถึงขวดน้ําพลาสติก 20 ขวดต่อตารางหลา มันคล้ายกับไนลอนริปสต็อป แต่ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ดูดซับความชื้นน้อยลง 80% และทนต่อรังสียูวีได้ดีกว่า ECOPAK มีให้เลือกหลายแบบตามน้ําหนักผ้า/ดีเนียร์ผ้าที่หลากหลาย EPLX แตกต่างจาก EPX ที่ L หมายถึงแผ่นฟิล์มลามิเนตกันน้ํา/กันรังสียูวี ในแง่นั้น EPLX เป็นการอัพเกรดที่มีประสิทธิภาพเป็น EPX ใครเป็นผู้ผลิตผ้า Challenge ULTRA™ ผ้า ULTRA™ ผลิตโดย Challenge Outdoor ซึ่งตั้งอยู่ในคอนเนตทิคัต โดยมีรากฐานมาจากอุตสาหกรรมการเดินเรือ เทคโนโลยีในผ้า ULTRA™ ของพวกเขาได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของกะลาสีเรือโดยการจัดหาวัสดุผ้าใบที่แข็งแรงและยาวนานที่สุด ในปี 2020 Challenge ได้ขยายไปสู่อุตสาหกรรมกลางแจ้ง โดยตระหนักดีว่าสิ่งทอของพวกเขาสามารถใช้ได้ในพื้นที่ทุรกันดารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดพอๆ กับการใช้ในพื้นที่ที่มีน้ำ ZPACKS THAILAND CAMPSTUDIO

  • เคล็ดลับการดูแลรองเท้า SHAKA ให้สวมใส่สบาย และสวยงามอยู่ตลอดเวลา

    เพราะ SHAKA ใส่สบายยยยยย เราเลยรู้ว่าทุกคนที่มี SHAKA คงใส่รองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าคู่ใจในทุกๆวันไม่ว่าจะไปทำงาน หรือ ไปเที่ยว เลยอาจทำให้ SHAKA ของคุณคลุกฝุ่นไปบ้าง วันนี้เราจะพาคุณมาพบกับผู้เชี่ยวชาญของ SHAKA ที่จะแนะนำวิธีถนอมรองเท้าคู่เก่งของคุณ ให้อยู่กับคุณไปได้นานๆ "Ai Kawashima" ผู้รับผิดชอบการตลาดของ SHAKA และ "Saki Tsuchiya" ผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ของ SHAKA HOW TO CARE.01 ー NEO BUNGY EX ー ทำความสะอาดเทปด้วยน้ำ และทำความสะอาดคราบสกปรกบนนีโอพรีนด้วยสบู่ การดูแลรองเท้าโดยทั่วไปแล้วเรามักจะเริ่มต้นด้วยการปัดฝุ่น และสิ่งสกปรกออกจากส่วนเทปด้วยแปรง แนะนำให้ใช้แปรงที่หัวแปรงไม่ใหญ่มาก และมีด้ามจับใช้งานง่าย ขนแปรงไม่แข็ง ปัดออกเบาๆ ไม่ต้องขัด เริ่มจากส่วนที่สกปรกน้อยก่อน แล้วค่อยเคลื่อนไปส่วนที่สกปรกมากขึ้นตามลำดับ จากนั้นใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำ บิดหมาดๆ แล้วเช็ดสิ่งสกปรกบริเวณเทปออก หากสิ่งสกปรกไม่หลุดออกมาแม้ว่าคุณจะเออกแรงแล้วก็ตาม การถูสบู่เบาๆ และล้างออกจะสามารถช่วยได้ **แนะนำ ไม่ควรถูด้วยแปรง เพราะจะทำให้พื้นผิวของรองเท้าฟู ต่อมาคือการล้างสิ่งสกปรกที่ด้านหลังของนีโอพรีน โดยทำการปลดสายคาดเพื่อเปิดให้เห็นส่วนของนีโอพรีน จากนั้นใช้สบู่ถูบนพื้นผิวของนีโอพรีน อย่าลืมทำความสะอาดด้านหลังของสาย ทั้ง 3 แถบ รวมถึงบริเวณส้นเท้าด้วย พื้นผิวของนีโอพรีนที่สัมผัสโดยตรงกับผิวหนัง จึงเกิดคราบสกปรกจากน้ำมันจากผิวหนังของเรา ควรใช้สบู่เพื่อทำความสะอาด ต่อมาใช้แปรงเพื่อขจัดส่ิงสกปรกออกจากพื้นรองเท้า ถูสบู่บนพื้นรองเท้าให้ทั่ว แล้วถูด้วยแปรงให้เกิดฟอง ควรล้างพื้นรองเท้าจากด้านบนที่ติดกับส่วนเท่าเรา ไล่ไปด้านข้าง และพื้นด้านที่ติดกับถนน ตามลําดับ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษกับขั้นตอนการขัดร่องรองเท้า "การถูแปรงในลักษณะกวาด จะช่วยขจัดส่ิงสกปรกให้หลุดออกมาได้ดี" ใช้แปรงขจัดคราบพื้นรองเท้าชั้นนอกทั้งหมดก่อน จากนั้นจึงใช้แปรงอันเล็กเพื่อขจัดส่ิงสกปรกออกจากร่อง สําหรับพื้นรองเท้าที่มีร่องละเอียดเหมือนพื้นรองเท้าฟันฉลาม ต้องใช้แปรงขนาดเล็ก สามารถใช้แปรงสีฟันท่ีใช้แล้วแทนก็ได้ และใช้นํ้าสะอาดล้างสบู่ออกให้หมด เมื่อรอให้แห้ง ให้ม้วนกระดาษแห้ง เช่น หนังสือพิมพ์ แล้วบรรจุในรองเท้าแตะเพื่อป้องกันไม่ให้เสียรูปร่าง กฎเหล็กคือให้แห้งในที่ร่มโดยหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง " แสงแดดโดยตรงจะทําให้รองเท้าของคุณเสื่อมสภาพ ดังนั้นโปรดเช็ดรองเท้าให้หมาดๆ และวางไว้ในที่ร่มเป็นเวลา 1 ถึง 2 วัน จนกว่าจะแห้งสนิทในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก" ▼จะทําอย่างไรเมื่อการยึดเกาะของเวลโครเทปหลุด หากกาวเวลโครหลุดออกมา หรือมีสิ่งสกปรกอุดตัน ให้ใช้แปรงเล็กๆ ที่สะอาดเพื่อขูดสิ่งสกปรกออกในสภาพแห้ง ก็จะสามารถติดเวลโครเทปได้อย่างปกติ อุปกรณ์สําหรับทําความสะอาด – แปรงขนาดใหญ่ ขนนุ่ม – แปรงขนาดเล็ก – สบู่ – ผ้าขนหนู HOW TO CARE.02 ー OTTER TRAIL AT ー OTTER TRAIL AT รองเท้าแตะสนีกเกอร์ที่มีตาข่ายด้านบน และเทปบนสายรัดเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี และให้ความคล่องตัวสูง เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น และสามารถไปในเส้นทางที่หลากหลายของ Otter Trail ทำความสะอาดสิ่งสกปรกด้วยแปรงขนนุ่มปานกลาง กำจัดฝุ่น และสิ่งสกปรก ใช้แปรงขนนุ่มปานกลาง เช่น ขนหมู ปัดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากรองเท้า เน้นบริเวณตาข่าย ชิ้นส่วนหนัง PU และตรงรอยเย็บ ซึ่งฝุ่นสามารถสะสมได้ง่าย  หากมีคราบดินหรือโคลนติดแน่นสามารถใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดออกเบาๆ ตาข่าย และหนัง PU ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำสะอาดเช็ดทำความสะอาดบริเวณตาข่าย และหนัง PU ที่เป็นส่วน Upper ของรองเท้า หากมีคราบสกปรกฝังแน่น สามารถใช้แปรงขนนุ่มร่วมกับ น้ำยาซักผ้าชนิดอ่อนโยน ขัดเบาๆ บริเวณที่เป็นคราบ สำหรับส่วนที่เป็นเทป ให้ถอดสายรัดรองเท้าออกก่อน จากนั้นสมน้ำยาซักผ้าชนิดอ่อนโยนเข้ากับกับน้ำอุ่นเช็ดคราบสกปรก ทำความสะอาดตาข่าย นำแปรงขนนุ่มชุบน้ำยาซักผ้าที่ผสมไว้ จากนั้นขัดถูบริเวณตาข่าย เบาๆทำความสะอาดเทป แช่ส่วนที่เป็นเทปลงในน้ำยาซักผ้าที่ผสมไว้ สักครู่ จากนั้นใช้ผ้าสะอาด เช็ดคราบสกปรกออก ขั้นตอนการทำความสะอาดพื้นรองเท้า SHAKA IN-FOAM ถอดพื้นรองเท้าออก พื้นรองเท้า IN-FOAM ของ SHAKA สามารถถอดออกมาได้อย่าง ง่ายดาย เพียงดึงขึ้นเบาๆ ก็สามารถนำออกมาทำความสะอาดได้ ปัดฝุ่น และสิ่งสกปรกออก ใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่น และเศษดินออกจากพื้นรองเท้าเบื้องต้น คราบสกปรกเล็กน้อย ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาดเช็ดคราบออก หากมีคราบฝังแน่น สามารถใช้ผงซักฟอกชนิดอ่อนโยนผสมน้ำแล้วใช้ผ้าชุบเช็ดคราบออก คราบสกปรกมาก หากพื้นรองเท้าสกปรกมาก แนะนำให้ซักด้วยเครื่องซักผ้า โดยเลือก โหมดซักมือ (Delicates) หรือโหมดทำความสะอาด (Cleaning) เพื่อถนอมพื้นรองเท้า การกำจัดกลิ่นรองเท้าด้วยสเปรย์ระงับกลิ่น ซักทำความสะอาด ก่อนอื่น ให้ซักรองเท้าของคุณตามปกติ หากเป็นรองเท้าผ้าใบ สามารถ ซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ ส่วนรองเท้าหนัง ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ ตากให้แห้งสนิท หลังจากซักเสร็จแล้ว ให้ตากรองเท้าในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเท ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการตากรองเท้ากลางแดดจัด เพราะอาจทำให้รองเท้าสีซีด หรือ วัสดุเสียหายได้ ฉีดสเปรย์ระงับกลิ่น เมื่อรองเท้าแห้งสนิทแล้ว ให้ฉีดสเปรย์ระงับกลิ่น เน้นบริเวณ พื้นรองเท้าด้านใน โดยเฉพาะบริเวณที่เท้าสัมผัสมากที่สุด หลังจากฉีดสเปรย์ ให้ผึ่งรองเท้าในที่ร่มจนแห้งสนิท อย่านำไปใส่ทันที เพราะความชื้น อาจทำให้เกิดกลิ่นอับได้อีก อุปกรณ์สําหรับทําความสะอาด – แปรงขนนุ่ม – แปรงสีฟันเก่า – น้ำยาซักผ้า – ผ้าขนหนู – กระดาษ – ผ้าขนหนู – สเปรย์ระงับกลิ่น HOW TO CARE.03 ー TRAIL TYROL MOC EX ー TRAIL TYROL MOC EX ส่วนบนของรองเท้าทำจากวัสดุไมโครไฟเบอร์คล้ายหนังกลับ ซึ่งวัสดุมีความอ่อนนุ่มจึงทำให้ส่วนบนของรองเท้าเกิดรอยยับได้ง่าย เติมเต็มและดูแล: เคล็ดลับรักษารูปทรงรองเท้าให้คงสวย ขั้นตอนการดูแลรักษา บรรจุกระดาษ เมื่อคุณไม่ได้สวมใส่รองเท้าเป็นประจำ ควรบรรจุกระดาษที่ม้วนไว้ด้านใน เพื่อช่วยรักษารูปทรงของรองเท้า ป้องกันการเกิดรอยยับ และดูดซับความชื้น ใช้ดันทรงรองเท้า (Shoe tree) จะช่วยคงรูปทรงของรองเท้าได้ดี โดยเฉพาะ บริเวณส่วนหน้า ควรเลือกที่ดันทรงรองเท้าที่ทำจากไม้ซีดาร์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดูดซับความชื้น และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ควรใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่น และทำความสะอาดคราบสกปรก ด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะสำหรับหนังกลับ หลีกเลี่ยงการใช้แปรงขนแข็ง หรือน้ำยา ทำความสะอาดทั่วไป เพราะอาจทำให้วัสดุเสียหาย ใช้สเปรย์กันน้ำ กันฝุ่น เพื่อช่วยป้องกันรองเท้าจากคราบสกปรก และยืดอายุ การใช้งาน ควรเก็บรองเท้าในที่แห้ง มีอากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงการวางรองเท้าซ้อนกัน หรือเก็บในที่อับชื้น หนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดสำหรับการดูแลรองเท้าหนังกลับคือ แปรงขนหมู ขนแปรงที่ แน่นแต่มีความอ่อนนุ่ม ช่วยขจัดฝุ่น สิ่งสกปรก และคราบสกปรกออกจากหนังกลับได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายพื้นผิวที่บอบ วิธีการทำความสะอาดรองเท้าด้วยแปรงขนหมู แปรงเบาๆ ในทิศทางเดียวกัน เริ่มจากการแปรงส่วนบนทั้งหมดของรองเท้า ตามด้วย การแปรงบริเวณร่อง และรอยตะเข็บอย่างระมัดระวัง การแปรงในทิศทางเดียวกันช่วยให้ขนหนังกลับ เรียงตัวสวยงาม แปรงทันทีหลังสวมใส่ ฝุ่นและสิ่งสกปรกจากชีวิตประจำวันสามารถฝังแน่นในหนังกลับได้ การแปรงรองเท้าทันทีหลังสวมใส่ช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกสะสม ใช้แปรงขนหมูสำหรับคราบแห้ง สำหรับคราบสกปรกที่แห้งติดแน่น ให้ใช้แปรงขนหมู ขัดเบาๆ เพื่อให้คราบหลุดออก เคล็ดลับทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน สิ่งสกปรกที่เห็นได้ชัดเจน ใช้น้ำสะอาดเช็ดทำความสะอาดเบาๆ โดยใช้ผ้าสะอาดซับน้ำพอ หมาดค่อยๆ แตะบริเวณที่มีสิ่งสกปรกเพื่อยกคราบสกปรกขึ้น คราบฝังลึก ผสมน้ำยาซักผ้าอ่อนๆ กับน้ำสะอาด ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำยา จากนั้นค่อยๆ เช็ด ทำความสะอาดบริเวณที่มีคราบ วิธีทำความสะอาดพื้นรองเท้าด้วยแปรง และสเปรย์ระงับกลิ่น ขจัดสิ่งสกปรกเบื้องต้น ใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนรองเท้าออกเบา ๆ โดยเฉพาะบริเวณซอกหรือรอยตะเข็บ ทำความสะอาดพื้นรองเท้าด้านนอก ผสมน้ำยาซักผ้าชนิดอ่อนกับน้ำสะอาด จากนั้นใช้ แปรงรองเท้าผ้าใบจุ่มลงไปแล้วขัดคราบสกปรกออก ล้างน้ำยาซักผ้าออก ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสะอาด บิดหมาด แล้วเช็ดน้ำยาซักผ้าออกให้หมด ทำความสะอาดสายรองเท้าและส่วนแกนหมุน ใช้ผ้าชุบน้ำยาเช็ดทำความสะอาด เช็ด บริเวณสายรองเท้าและแกนหมุนให้สะอาด ดูแลแผ่นรอง IN-FOAM หากรองเท้าของคุณมีแผ่นรอง IN-FOAM ให้นำออกมา ทำความสะอาดด้วยแปรงขนนุ่ม และฉีดสเปรย์ระงับกลิ่นกาย เพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตากรองเท้าให้แห้ง วางรองเท้าในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทสะดวก เคล็ดลับ: สำหรับคราบฝังแน่น ให้ใช้แปรงขนนุ่มขัดเบาๆ ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการตากรองเท้ากลางแดดจัด เพราะอาจทำให้รองเท้าสีซีดหรือเสีย รูปทรงได้ วิธีการใช้สเปรย์สก๊อตช์การ์ดกันน้ำกับรองเท้าผ้าใบ ทำความสะอาดรองเท้า ก่อนการฉีดสเปรย์ ควรทำความสะอาดรองเท้าให้ปราศจากฝุ่น และคราบสกปรก เพื่อให้สเปรย์สามารถเคลือบพื้นผิวรองเท้าได้อย่างทั่วถึง เลือกพื้นที่เหมาะสม ฉีดสเปรย์ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันการสูดดม สารเคมี และลดการสะสมของละอองสเปรย์ ฉีดสเปรย์ให้ทั่วถึง ถือกระป๋องสเปรย์ให้ห่างจากรองเท้าประมาณ 15-20 เซนติเมตร และฉีดให้ทั่วพื้นผิวรองเท้า โดยเฉพาะบริเวณตะเข็บ รอยต่อ และส่วนที่มักสัมผัสกับน้ำหรือ ความชื้น ผึ่งให้แห้ง หลังจากฉีดพ่นสเปรย์ ใช้ผ้าสะอาดเช็ดส่วนที่พ่นเกิน และนำรองเท้าไปผึ่งลมในที่ร่ม ควรรอให้รองเท้าแห้งสนิททั้งคู่ก่อนสวมใส่ การผึ่งรองเท้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยให้สเปรย์แห้งเร็วขึ้น ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท ควรทิ้งรองเท้าไว้ให้แห้งสนิทอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนนำไปใช้งาน เคล็ดลับเพิ่มเติม เลือกชนิดของสเปรย์กันน้ำให้เหมาะสมกับวัสดุของรองเท้า เช่น รองเท้าหนัง รองเท้า ผ้าใบ หรือรองเท้าผ้า ทดสอบสเปรย์ในจุดเล็กๆ ก่อน เพื่อป้องกันการเกิดรอยด่าง หรือสีเปลี่ยน ฉีดสเปรย์ซ้ำเป็นระยะ เพื่อคงประสิทธิภาพในการกันน้ำ โดยเฉพาะหลังจากใช้งาน รองเท้าในสภาพอากาศที่เปียกชื้น อุปกรณ์สําหรับทําความสะอาด – แปรงขนหมู – แปรงขนาดเล็ก – สเปรย์กันน้ำ – สเปรย์ระงับกลิ่นกาย – ผ้าสะอาด – กระดาษ การดูแลรองเท้าเพื่อให้สวมใส่สบายและสวยงามตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องยาก เพียงปฏิบัติตามเคล็ดลับนี้ รองเท้า SHAKA ของคุณก็จะอยู่ในสภาพที่ดี และสวยงามได้ตลอด CAMPSTUDIO SHAKA

  • ให้ไฟ Barebones ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นในวันวาเลนไทน์ปีนี้

    ไฟเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศของพื้นที่นั้นๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยทีเดียว... ดินเนอร์วาเลนไทน์ปีนี้ เชื่อเลยว่าคงมีหลายคู่ที่จะเลือกใช้เวลาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นที่แคมป์ หรือที่บ้าน เราอยากมาแนะนำไฟ 5 ตัวของเราที่ช่วยทั้งเรื่องความสว่าง และความสวยงาม รับรองได้เลยว่า จะเป็นวาเลนไทน์ที่น่าจดจำอีกหนึ่งปี THE RAILROAD LANTERN โคมไฟสไตล์ Union Pacific โบราณ แก้วครอบที่มีลวดลายสวยงาม และทองแดงของ Railroad Lantern สร้างความโดดเด่นต่อทุกพื้นผิวที่ส่องสว่าง แสงของมันฉายออกไปด้านนอกเหมือนรัศมี ทําให้เป็นตะเกียงที่เหมาะสำหรับใช้ในขณะที่คุณทําอาหาร อ่านหนังสือ หรือจัดที่ตั้งแคมป์ ระบบโดยอัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการแสงที่สว่าง และแสงสะท้อนสําหรับเต็นท์ของคุณที่ทําให้สภาพแวดล้อมทั้งหมดสว่างขึ้น ความสว่างที่ปรับได้ของ Railroad Lantern ทําให้เป็นตะเกียงที่ยอดเยี่ยมสําหรับทั้งครอบครัว - หรือเพียงเพื่อให้แสงสว่าง ใช้แบตเตอรี่หรือ USB-C และใช้งานได้ 3.5 ชั่วโมงเมื่อเปิดสูงสุด - หรือ 100+ ชั่วโมงเมื่อเปิดต่ำสุด มีให้เลือก ทั้งหมด 5 สี EDISON LIGHT STICK เป็นเอกลักษณ์ สวยงาม และหลากหลาย Edison Light Stick เป็นทั้งของสะสม และตะเกียงที่ให้แสงสว่าอย่างเด่นชัดสําหรับโต๊ะอาหารของคุณ EDISON LIGHTSTICK สร้างแสงโดยรอบที่อบอุ่นเป็นตะเกียงได้ แถมยังแปลงเป็นไฟฉายที่สว่างได้อย่างง่ายดายเพียงหมุนฐานของตัวไฟ ทั้งประหยัดพื้นที่ และใช้ความสามารถ 2-in-1 อันยอดเยี่ยมของ Edison Light Stick EDISON STRING LIGHTS การจัดแสงไฟเต็นท์ คุณอาจไม่มีไฟแบบสายไฟที่อยู่ด้านบน - แต่นอกเหนือจากการเพิ่มบรรยากาศและ สไตล์ที่สะดวกสบายแล้ว EDISON STRING LIGHTS ยังให้แสงเหนือศีรษะที่ยอดเยี่ยมภายในเต็นท์ของคุณ ชุดไฟจี้สามดวงนี้เชื่อมต่อกับสายเดียว ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงสายไฟที่พันกันยุ่งเหยิงและเสียบเข้ากับอะไรก็ได้ที่ใช้ USB - ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ง่ายและยืดหยุ่นในขณะที่คุณกำลังกางเต็นท์ มีให้เลือก 4 สี BEACON HANGING LIGHT Beacon Light ได้รับการออกแบบอย่างตั้งใจเพื่อให้แสงสว่างเหนือศีรษะที่ยอดเยี่ยมสําหรับห้อยลงมาติดคาราบิเนอร์ที่ด้านบน สามารถแขวนได้ทุกที่ที่คุณต้องการแสงเพิ่มเล็กน้อย Beacon Light สว่างลงด้านล่างทําให้การเตรียมอาหารหรือค่ำคืน Valentine’s แสนสบายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่กดปุ่ม เลือกสีที่เหมาะกับการออกแบบเต็นท์ของคุณมากที่สุด หรือเปิดหลายๆ สีเพื่อเพิ่มสีสันพร้อมกับการส่องสว่างที่คุณต้องการ BEACON HANGING LIGHT ขนาดกำลังดี และมีสไตล์ Outpost Lantern ใหญ่ขึ้นมานิดหน่อยจาก Mini Edison ใช้พื้นที่น้อยแต่ให้แสงสว่างมาก ตะเกียงนี้เพิ่มแสงโดยรอบที่นุ่มนวล และอบอุ่นให้กับเต็นท์ หรือโต๊ะอาหารของคุณ Outpost Lantern ใช้พลังงานจากไส้หลอด LED สไตล์วินเทจ กันสนิมและกันน้ํา ทําให้เหมาะสําหรับเปลี่ยนแปลงบรรยากาศพื้นที่ของคุณ มีทั้งหวด 2 สีให้คุณเลือกใช้ให้เหมาะกับบรรยากาศที่คุณต้องการ BAREBONES LIVING THAILAND CAMPSTUDIO THAILAND

  • ครบรอบ 65 ปี ของ Snow Peak

    ในปีนี้ Snow Peak ฉลองครบรอบ 65 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1958 การเดินทางกว่า 6 ทศวรรษครึ่งของบริษัท ครอบคลุมหลายชั่วอายุคน และทวีปต่างๆ แต่ความเชื่อของเราในพลังแห่งการฟื้นฟูเวลาในธรรมชาตินั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่เรามองหาโอกาส และความท้าทายในอนาคต เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกและชุมชนของเรา เราได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกอันยาวนานด้านงานฝีมือ การออกแบบที่มีคุณภาพ และ มุมมองที่ชัดเจนของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการใช้ชีวิตกลางแจ้ง อดีตของเราบ่งบอกถึงอนาคตของเรา ร่วมเรียนรู้เกี่ยวกับต้นกําเนิดของเราจากชมวิดีโอล่าสุดที่เฉลิมฉลองเหตุการณ์สําคัญต่างๆในระยะเวลา 65 ปี การเดินทางของ Tohru การเดินทางของ Tohru เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Healing Power of Nature เรากําลังสํารวจเรื่องราวอันยาวนานของตระกูล Yamai และ เหล่า Snow Peakers หลังจากใช้เวลาในวัยเด็กใน Tsubame-Sanjo Tohru ย้ายไปโตเกียวหลังเลิกเรียน และเริ่มทํางานที่บริษัทการค้าต่างประเทศ เขาทําได้ดีที่นั่น แต่ยังรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับชีวิตในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว เขาเริ่มคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เขามีในซันโจจนถึงมัธยมปลาย และเขารู้สึกถูกตัดขาดจากมัน Tohru ต้องยอมรับเรื่องการเดินทางของเขาบนรถไฟไปยังชินจูกุที่แออัด การยืนเข้าแถวต่อคิวที่ยาวถึง 9 เมตร เต็มไปด้วยคนเงียบๆ มุ่งหน้าไปยัง Office สำนักงานของพวกเขา มันทําให้เขารู้สึกว่าบุคคลนั้นดูเหมือนไร้ความหมายที่นี่ และการตระหนักรู้นี้เป็นเรื่องยากที่จะรับได้ ภารกิจของ Snow Peak คือการฟื้นฟูจิตวิญญาณของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Tohru ต้องการอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ วันหนึ่ง Tohru ได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเขา น้ําเสียงของยูกิโอะตรงไปตรงมาและไม่เหลือที่ว่างสําหรับการปฏิเสธ: "คุณสัญญาว่าคุณจะกลับมาในสามปี และตอนนี้ถึงเวลากลับมาแล้ว" Tohru จําคําสัญญาดังกล่าวไม่ได้ แต่ก็ยังทําให้เขาไม่มั่นใจ เขาเข้ากันได้ดีกับพ่อของเขามาโดยตลอด ในการเดินทางกลับบ้านปีละครั้ง เขาจะเล่าให้ยูกิโอะฟังเกี่ยวกับงานของเขาในโตเกียว ยูกิโอะจะพยักหน้าและรับฟัง เมื่อ Tohru ตอนอายุ 10 ขวบ Yukio ได้สั่งให้เขา "อย่าปีนภูเขา!" ตอนนี้ Yukio กำลังมอบคำสั่งใหม่ให้กับ Tohru เป็นเพียงครั้งที่สองในชีวิตของ Tohru เมื่อมองย้อนกลับไป คําขอของยูกิโอะไม่สามารถมาในเวลาที่ดีกว่าสําหรับโทรุได้ มันทําให้เขาออกจากเมืองที่แออัดไว้เบื้องหลังและอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ล้อมรอบไปด้วยความงามของธรรมชาติอีกครั้ง Tohru ทําทุกอย่างที่ทําได้ เพื่อออกจากงานปัจจุบันและไปในทางที่ดี เขาทำยอดขายเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีสุดท้ายของเขา ความพยายามของเขาเป็นไปตามสุภาษิตญี่ปุ่นเกี่ยวกับโลกธรรมชาติ: "นกไม่ทำรังที่เหม็นไว้ ก่อนที่กําลังจะจากไป" ในฐานะคนชอบออกไปข้างนอก Tohru ปฏิบัติตามกฎนั้นอย่างสุดขีด การกลับมาของ Tohru ที่นีงาตะบ่งบอกถึงจุดเปลี่ยนที่สําคัญในชีวิตของเขาและวิถีของ Snow Peak Yukio ให้ตําแหน่ง open-ended แก่ Tohru โดยสนับสนุนให้เขาบริหารแผนกการตลาด และลองสิ่งใหม่ๆ ด้วยเหตุนี้ Tohru จึงได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของเขา ในที่สุดก็นํา Snow Peak เข้าสู่ตลาดและลองสิ่งใหม่ๆ เช่น การตั้ง Car Camping และดูแลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่กลายเป็นส่วนที่โดดเด่นคอลเลกชั่นของบริษัท การเดินทางของ Yukio เรื่องราวของ Yukio Yamai เริ่มขึ้นในโตเกียว ยูกิโอะ เกิดในเขตโยสึยะของเมืองในปี ค.ศ. 1931 ยูกิโอะกําลังจะเข้าโรงเรียนมัธยมปลายเมื่อการโจมตีทางอากาศทําลายบ้านของครอบครัวพวกเขาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1945 ยูกิโอะจึงย้ายไปอยู่ที่บ้านเกิดของบิดา ซานโจ ในเมืองนีงาตะ เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน เขาจึงเริ่มทํางานให้กับผู้ค้าส่งเครื่องโลหะเพื่อช่วยหาเงินเลี้ยงชีพ ในปี ค.ศ. 1956 กลุ่มนักปีนเขาชาวญี่ปุ่นกลายเป็นกลุ่มแรกที่ไปถึงยอดเขามานัสลู (26,759 ฟุต) ของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก ความสําเร็จของพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ญี่ปุ่นหลังสงครามและทําให้เกิดความเฟื่องฟูในการปีนเขาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยูกิโอะยังคงอาศัยอยู่ใน Tsubambe-Sanjo และตกหลุมรักภูเขาเช่นกัน หลังจากโศกนาฏกรรมของสงคราม เขาพบความงามของยอดเขาอัลไพน์ ยอดเขาที่เขาชื่นชอบคือภูเขาทานิกาวะซึ่งอยู่ระหว่างเขต แดน จังหวัดนีงาตะและ กุมมะ แม้ว่ามันจะสูงไม่ถึง 6,500 ฟุต แต่หน้าผาสูงชันและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่รุนแรงได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่าภูเขาอื่นๆ ในโลก นักปีนเขาเรียกมันว่า "ภูเขาปีศาจ" หรือ "ภูเขาที่กินคน" แต่เด็กหนุ่มยูกิโอะก็ปีนขึ้นไปบนใบหน้าของอิจิโนะคุระซาวะที่อันตรายของยอดเขาอย่างกระตือรือร้น การปีนเขาในสมัยนั้นแตกต่างจากปัจจุบัน เสื้อผ้า และอุปกรณ์ไม่ได้มีฟังก์ชันการทํางานที่ครบแบบปัจจุบัน อาหารก็ธรรมดา และ การแบกของที่หนัก ความตายอยู่ใกล้ตัวเสมอ และนักปีนเขาก็รู้ แม้จะมีความท้าทาย ยูกิโอะก็ออกเดินทางเพื่อภูเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ บันทึกภูเขาของยูกิโอะบันทึกสภาพอากาศในการขึ้นของเขา การสนทนากับเพื่อนๆ สภาพเส้นทางที่ยากลําบาก และความงดงามของธรรมชาติ ข้อความที่ตัดตอนมาต่อไปนี้เป็นการคาดเดาภารกิจของ Snow Peak ในการฟื้นฟูมนุษยชาติด้วยการเชื่อมต่อกับธรรมชาติอีกครั้ง “เราเชื่อมโยงชีวิตของเราเข้าด้วยกันด้วยเชือกปีนเขาเพียงเส้นเดียว และมันทําให้เรารู้สึกไว้วางใจซึ่งกันและกันได้อย่างสวยงาม มันเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ หากเราสามารถจับความรู้สึกนั้น และควบคุมมันให้ดีก็จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างแน่นอน " เมื่อความหลงใหลในการปีนเขาของเขาเพิ่มมากขึ้น ยูกิโอะใช้ความสัมพันธ์ของเขากับช่างโลหะของ Tsubame-Sanjo เพื่อสร้างอุปกรณ์ของเขาเอง เขามีวิสัยทัศน์และนํามันมาสู่ชีวิต ยูกิโอะเริ่มทดสอบการออกแบบใหม่ของเขากับเพื่อนนักปีนเขาและเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ยุโรปที่เขาซื้อ เขาเชื่อมั่นว่าเขาสามารถทําสิ่งที่ดีกว่าได้ และทักษะทางเทคนิคของช่างฝีมือ Tsubame-Sanjo ทําให้ความฝันของเขาเป็นจริง ดังนั้นจิตวิญญาณแห่งงานฝีมือของ Snow Peak จึงถือกําเนิดขึ้น ในปี ค.ศ. 1958 ยูกิโอะได้ก่อตั้งบริษัท Yamai Shoten ซึ่งเป็นบริษัทอุปกรณ์ปีนเขาที่จะกลายเป็น Snow peak ในไม่ช้า เขาก็ขาย Crampons ชนิดพิเศษและอุปกรณ์ปีนเขาอื่นๆ ทั่วญี่ปุ่น Crampons มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเดินบนเส้นทางน้ำแข็งที่เย็นยะเยือก ซึ่งการเหยียบผิดเพียงครั้งเดียวอาจเป็นหายนะได้ เมื่อมองย้อนกลับไป เป็นสัญลักษณ์ว่า Crampons กลายเป็นเพลงฮิตครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Snow Peak กว่า 60 ปีต่อมา Snow Peak ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะแบรนด์อุปกรณ์กลางแจ้งที่เป็นนวัตกรรมใหม่โดยก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญครั้งแล้ววครั้งเล่า แต่ Yukio แทบจะไม่สามารถจินตนาการถึงสิ่งที่อยู่ข้างหน้าสําหรับธุรกิจของเขา ความสัมพันธ์ของ Yukio กับช่างฝีมือโลหะแห่ง Tsubambe-Sanjo และความเชื่อของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของ DNA ของ Snow Peak ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่และประสบการณ์กลางแจ้งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ 60 Years Ago ถึงตอนนี้ ยูกิโอะออกไปปีนเขาเกือบทุกสัปดาห์ และเขายังคงกลับมาหาคนงานโลหะในพื้นที่สึบาเมะ-ซันโจโดยถามว่า "คุณจะทําสิ่งนี้ให้ฉันได้ไหม" เขาต้องการไอเท็มมากขึ้นเรื่อยๆ และความต้องการของเขาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ การหาอุปกรณ์ที่เขาชอบ เขาจะไปไกลถึงขั้นสั่งจากยุโรป จากนั้นเขาจะวางอุปกรณ์ต่างๆ ที่แตกต่างกันใกล้เคียงกันและเปรียบเทียบด้วยตาของเขาเอง แต่ยูกิโอะเชื่อมั่นว่าสามารถทำสิ่งดีกว่านี้ได้ ทักษะขั้นสูงของช่างฝีมือ Tsubame-Sanjo ทําให้อุปกรณ์ที่ Yukio จินตนาการไว้มีรูปทรงที่มั่นคง ด้วยความกระตือรือร้นที่จะทดสอบฝีมือ เขารออย่างใจจดใจจ่อเพื่อไปที่ภูเขา รองเท้าบูทปีนเขา ค้อน Crampons ยูกิโอะและเพื่อนๆ พวกเขาได้ทดสอบและพัฒนาต่อไป แม้แต่การเปลี่ยนมุมหรือตําแหน่งเพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตหรือความตายบนหิมะได้ แม้ว่าจะต้องยุ่งยากบ้างเพื่อให้บรรลุผล แต่ความสุขที่ยิ่งใหญ่ของยูกิโอะก็คือ การหาวิธีปรับปรุงอุปกรณ์ที่มีอยู่ ในบันทึกประจำของเขาได้เขียนว่า “วันนี้เราลอง Pitons จำนวนหนึ่ง เสียงที่เราขับเข้าไปนั้น ก้องกังวานอย่างน่ามหัศจรรย์ เสียงเรียกเข้าที่เป็นโลหะแต่ละอันดังขึ้น ทำให้จิตวิญญาณของเราสูงขึ้น และสูงขึ้น” ขึ้นไปบริเวณ Takizawa ตอนล่างของหน้าผา Ichinokurasawa ภูเขา Tanigawa เมื่อ 16 สิงหาคม 1956 ยูกิโอะได้รับเสียงสนับสนุนจากเสียงแหลมอันไพเราะของ Pitons บนภูเขาโปรดของเขา จนทำให้เขาตัดสินใจแยกตัวเป็นอิสระเมื่ออายุเพียง 26 ปี ในพ.ศ. 2501 เขาได้ก่อตั้ง Yamai Shoten ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Yamako ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ  Snow peak ปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะเริ่มต้นเป็นผู้ขายอิสระซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือของช่างไม้ อุปกรณ์ปีนเขาดั้งเดิมคุณภาพสูงที่ยูกิโอะเคยทดสอบและสร้างขึ้น ค่อยๆเริ่มขายได้อย่างรวดเร็วในประเทศญี่ปุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากซึ่งแซงหน้าคู่แข่งคือ Crampons ของยูกิโอะ ผลิตภัณฑ์ชิ้นเอกนี้ได้รับการขัดเกลาหลังจากการปรับปรุงหลายครั้ง และกลายเป็นที่รู้จักในฐานะงานฝีมือของ Snow Peak เมื่อ Crampons เหล่านั้นเริ่มขายได้เร็วกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ช่างฝีมือของยูกิโอะไม่สามารถทํามันด้วยมือต่อไปบริษัทได้สร้างระบบการผลิตจํานวนมากโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องตีขึ้นรูปที่โดดเด่นของพื้นที่ Tsubame-Sanjo ขณะที่ยูกิโอะสร้างบริษัทของเขาและส่งเสริมพนักงาน เขาก็กล่าวคำอำลาภูเขาอย่างเงียบๆ แม้ว่าจะยังคงมีจิตใจและร่างกายที่สามารถก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้อีก แต่เขาตัดสินใจโดยอาศัยความเคารพในพลังแห่งธรรมชาติที่เขารู้จักเป็นอย่างดีและโชคชะตาของเขาในฐานะประธานบริษัท ในปี ค.ศ. 1963 ห้าปีหลังจากการก่อตั้ง Yamai Shoten ยูกิโอะได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าใหม่ และแบรนด์ Snow Peak ก็ถือกําเนิดขึ้น Snow Peak: เมื่อใดก็ตามที่ยูกิโอะได้ยินชื่อ มันก็นึกถึงภาพเงาสีขาวที่สวยงามของภูเขา Tanigawa ซึ่งเป็นภูเขาที่เขาเสี่ยงชีวิตทั้งวัยของเขา ไม่ว่าเขาจะปีนมันกี่ครั้ง ยูกิโอะก็ไม่อาจเชี่ยวชาญมันได้ และทุกครั้งที่เขายืนอยู่บนนั้น ยอดเขา นิรันดร์ดูเหมือนจะยิ่งห่างไกลออกไป ภูเขา Tanigawa เป็นครูผู้ที่เป็นเคารพนับถือและคอยดูแลเขา ทําให้ภารกิจของบรรลุถึงระดับงานฝีมือที่หายากพอๆ กับจุดสูงสุดนั้น ยูกิโอะจึงมีใจเด็ดเดี่ยวในการผลิตและขายอุปกรณ์ประเภทที่เขาต้องการต่อไป 20 Years Ago หลังจากที่บริษัทเติบโตขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ภายใต้การนำของ Tohro Yamai ต่อมาความนิยมของแคมป์ปิ้งก็สิ้นสุดลงอย่างกระทันหัน นำไปสู่ช่วงเวลาแห่งการต่อสู้เพื่อ Snow peak อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณพนักงานสองคน ที่ช่วยให้บริษัทได้นำเสนอสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้ Snow peak กลับมาเป็นที่นิยมได้อีกครั้ง CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • คู่มือการใช้เครื่องมือทำสวนสไตล์ญี่ปุ่น จาก Barebones

    ไม่ว่าคุณจะซื้อเครื่องมือทำสวนชิ้นแรก หรือต้องการลดขนาดพื้นที่ในโรงเก็บอุปกรณ์ เครื่องมือทำสวนของญี่ปุ่นนั้นตอบโจทย์เป็นอย่างมากในด้านคุณภาพ ด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และทนทาน เครื่องมือทำสวนสไตล์ญี่ปุ่นมักออกแบบโดยคำนึงถึงงานเดียว หมายความว่าเครื่องมือแต่ละชิ้นได้รับการทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุด ในสวน หรือครัวของคุณโดยเฉพาะ ก่อนอื่นมารู้จักกับประวัติเครื่องมือทำสวนของญี่ปุ่น เครื่องมือทำสวนของญี่ปุ่นสมัยใหม่เป็นที่ทราบกันดีว่ามีความน่าเชื่อถือ ใช้งานได้ยาวนาน และประดิษฐ์ขึ้นอย่างแม่นยำ และสิ่งนี้มีต้นกำเนิดโดยตรงจากประวัติศาสตร์คู่ขนานของญี่ปุ่นในด้านการเกษตรที่สงบสุข และนักรบที่ดุร้าย อย่างช่วงกลางทศวรรษที่ 1500 การเพิ่มขึ้นของ Ashiguru ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรชาวญี่ปุ่นที่ถูกเกณฑ์เข้ารับราชการทหาร นักรบเหล่านี้ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับอนุญาตให้ยึดทรัพย์สมบัติ และอาวุธจากผู้คนที่พวกเขาพิชิตได้ กลยุทธ์นี้ได้ผล กลับทำให้มีทหารรับจ้างติดอาวุธเพิ่มขึ้นซึ่งคุกคามขุนนางศักดินาในสมัยนั้น เพื่อจัดการกับภัยคุกคามนี้ จักรพรรดิโทโยโทมิ ฮิเดโยชิใช้กฎใหม่ที่เรียกว่าคาตานาการิ ซึ่งนิยามตามตัวอักษรว่า “การล่าด้วยดาบ”: กฎนี้ยึดอาวุธที่เป็นของอาชิกุรุ อนุญาตให้พวกเขาเก็บเครื่องมือสำหรับทำสวนและการเกษตรได้ เนื่องจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตลอดหลายศตวรรษ การทำดาบคาตานะจึงเป็นสิ่งผิดกฎหมายในปี 1876 ทำให้ช่างตีดาบมืออาชีพต้องเปลี่ยนชุดทักษะที่หลากหลาย และพัฒนาใบมีดและเครื่องมือใหม่ๆ สำหรับงานยามสงบ และงานฝีมือที่มีประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมได้ถือกำเนิดขึ้น Barebones ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องมือทำสวนสไตล์ญี่ปุ่น จึงได้พัฒนาเครื่องมือบางอย่าง ที่มีประโยชน์มากสำหรับการใช้งานในร่ม และกลางแจ้ง ที่มีความทนทาน คุณภาพสูง หากคุณชื่นชอบรูปลักษณ์ และสัมผัสของเครื่องมือทำสวนสไตล์ญี่ปุ่น Blog นี้รวบรวมรายการสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดของเราไว้แล้ว ARTISAN SHEARS สำหรับการใช้งาน : ตัดแต่งกิ่งบริเวณที่เข้าถึงยาก ตัดแต่งเถา หรือก้านที่บอบบาง ได้รับการออกแบบในรูปแบบของกรรไกรบอนไซของญี่ปุ่น : ด้ามจับรูปผีเสื้อที่กว้างขึ้น ช่วยให้เคลื่อนที่ได้ง่าย และใบมีดเหล็กสั้นกว่ากรรไกรทั่วไปมาก การออกแบบนี้ช่วยให้สามารถเล็มต้นไม้เขียวหรือหน่อได้อย่างละเอียดอ่อน และแม่นยำ โดยไม่ต้องใช้ใบมีดขนาดใหญ่ มีสองขนาด เลือกให้เหมาะกับงานของคุณ มากที่สุด ดีไซน์ทั้งสองแบบผลิตจากสเตนเลสสตีลที่ทนทานพร้อมพื้นผิวแบบโบราณ NATA TOOL สำหรับการใช้งาน : ถางป่า สับไม้เพื่อก่อไฟ ลอกเปลือกไม้ เมื่อจำเป็นต้องใช้ใบมีดขนาดใหญ่ เครื่องมือ Nata จะทำงานคล้ายกับมีดพร้า โดยให้น้ำหนักในการเหวี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถจัดการกับโครงการขนาดใหญ่ได้อย่างง่าย รูปทรงเพรียวบางทำให้บรรจุ และพกพาได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก ผลิตจากสเตนเลสสตีล มีด้ามจับทำจากไม้เนื้อแข็งที่แข็งแรงมาก คุณจึงสามารถสับได้อย่างง่ายดาย NATA HATCHET สำหรับการใช้งาน: ผ่าฟืน ขูดผิวไม้ ตัดไม้ไผ่ หากต้องการใช้เครื่องมือ Nata ที่แข็งแรงและกะทัดรัดยิ่งขึ้น ให้พิจารณาเครื่องมือ Nata รุ่นนี้ จะมีน้ำหนักเยอะกว่าเล็กน้อย มุมใบมีดเหมาะสำหรับการถอนกิ่งและการตัดแต่งกิ่งที่แข็งมากขึ้น ใบมีดโค้งช่วยให้สามารถตัดและขูดได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษ ความยาวที่สั้นกว่าช่วยให้สามารถงัดได้มากขึ้นด้วยกำลังที่เพิ่มขึ้น ทำด้วยเหล็กกล้าไร้สนิม ใช้งานได้บ่อยโดยไม่ต้องกลัวหัวขวานหลุด ที่จับไม้วอลนัทมีห่วงคล้องเชือกทองแดงด้านบน ทำให้แขวนหรือจัดเก็บได้ง่าย JAPANESE WEEDING HOE สำหรับการใช้งาน : กำจัดพืชคลุมดินที่ดื้อรั้น (ไม้เลื้อย หญ้า) ขุดวัชพืชที่หยั่งรากลึก หากงานสวนของคุณมีการกำจัดวัชพืช การตัดรากและลำต้น หรือแม้แต่การดึงวัสดุคลุมดินที่แข็งกระด้างขึ้น จอบกำจัดวัชพืชแบบญี่ปุ่นจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับงานประเภทนี้ ดังนั้นใบมีดที่คมกริบและมีมุมจึงเฉือนลำต้น และคราดผ่านดินได้อย่างง่ายดาย จอบกำจัดวัชพืชของญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือทำสวนญี่ปุ่นที่ดีที่สุดที่มีอยู่ และจะช่วยให้คุณทำโครงการกลางแจ้งของคุณให้เสร็จในอีกหลายปีข้างหน้า: ใบมีดสแตนเลสที่ผ่านการอบด้วยความร้อนและด้ามจับไม้วอลนัทที่สะดวกสบายรับประกันอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีประสิทธิภาพ GARDEN PRUNER สำหรับการใช้งาน: เล็ม และตัดแต่งกิ่งพุ่มกุหลาบ การตัดดอกไม้เป็นช่อ เล็มและตัดแต่งกิ่งด้วย Garden Pruner ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในชุดอุปกรณ์ทำสวนเกือบทั้งหมด ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น การทำงานที่ราบรื่น ใบมีดที่แม่นยำ และที่จับสปริงสามารถปรับให้เข้ากับงานได้หลากหลาย ขนาดที่เล็กและจัดเก็บง่ายยังเหมาะสำหรับการตัดแต่งในร่มและทำสวนอีกด้วย โครงสร้างเหล็กที่ทนทานและการเน้นสีทองแดงที่มีสไตล์ทำให้ดูสวยงาม มาพร้อมปลอกจัดเก็บให้เป็นระเบียบและปลอดภัย HORI HORI สำหรับการใช้งาน : ขุดดิน ตักดิน และปลูก น่าจะเป็นเครื่องมือทำสวนของญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด คือมีดขุดแบบญี่ปุ่น เครื่องมือนี้เป็นการผสมผสานระหว่างเสียมและมีด กลายเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับการขุด ตัก และปลูก Barebones นำเสนอ Hori Hori ในสองสไตล์ ได้แก่ Classic และ Ultimate ซึ่งแต่ละแบบเหมาะสำหรับงานปลูกต้นไม้และงานสวนกลางแจ้ง HORI HORI CLASSIC เครื่องมือแบบคลาสสิกที่ไม่เหมือนใครของ Barebones ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงงานสวนเป็นหลัก ด้านบนโค้งมนและด้านหยักของ Hori Hori Classic ทำให้เหมาะสำหรับการตัก ขุด และถอนวัชพืช และที่ตัดเกลียวที่เพิ่มเข้ามายังเป็นที่เปิดขวดได้ คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน HORI HORI ULTIMATE ป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ที่เหมาะจะใช้งานกิจกรรมกลางแจ้ง ตั้งแคมป์ หรือทุกที่ที่คุณต้องการ ฐานพู่แบนตอกสมอบกได้ มีเครื่องหมายนิ้วที่สะดวก ใช้วัดความลึกของการปลูกได้ ใบมีดทนความร้อน และสนิม ระดับที่วางใจได้นี้มีปลอกหุ้มที่ทนทานซึ่งทำจากผ้าใบเคลือบแว็กซ์และซับในเสริมความแข็งแรง เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบในการหนีบเข้ากับเข็มขัด NAKIRI KNIFE สำหรับการใช้งาน: ใช้หั่นผักทุกชนิด อย่าง แตงกวาฝานบางๆ มันฝรั่งสับ หรือแครอทผ่าครึ่ง มีด Nakiri นั้นชวนให้นึกถึงมีดปังตอ ที่สับอย่างรวดเร็ว เมื่อเตรียมวัสถุดิบที่ต้องใช้การสับจำนวนมาก มีด Nakiri จะทำงานอย่างรวดเร็วในการเตรียมผักที่มีเนื้อแน่น เช่น มันเทศ ผักกาด และกะหล่ำปลีได้ในพริบตา ประดิษฐ์ขึ้นด้วยใบมีดสเตนเลสสตีลแบบ full-tang ที่ทนต่อการแตก ด้ามจับไม้ Pakkawood ที่ทนทาน ซึ่งให้ความสวยงามทั้งสายตาและจับสบายมือ ใบมีดนี้มาพร้อมกับปลอกหนังแท้เพื่อรักษาความคมของใบมีด เมื่อรู้วิธีการใช้งานแล้ว มาเลือกเครื่องมือที่เหมาะกับกิจกรรมของคุณได้เลย ! BAREBONES LIVING THAILAND CAMPSTUDIO THAILAND

  • เบื้องหลังการออกแบบ: ขวดออโรร่าไทเทเนียมรีไซเคิล

    เขียนโดย Savanna Frimoth มุมมองของ Snow Peak เกี่ยวกับธรรมชาติมีรากฐานมาจากมรดกของญี่ปุ่น โดยมองว่ามนุษย์ไม่ได้แยกออกจากธรรมชาติ แต่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ วิถีชีวิตสมัยใหม่ของเรามักจะตัดการเชื่อมต่อเราจากกิจกรรมกลางแจ้ง และภารกิจของ Snow Peak คือการเชื่อมโยงมนุษย์กับธรรมชาติอีกครั้ง ดังนั้นเราจึงเข้าใจบทบาทสําคัญในชีวิตของเรา เพื่อบรรลุภารกิจของเราต่อไป เราต้องทํางานเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสําหรับโลกของเรา Snow Peak ได้เปิดตัวความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนหลายอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ รวมถึงการทํางานเพื่อการพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด ยกเครื่องบรรจุภัณฑ์ และล่าสุด การแนะนําผลิตภัณฑ์ไทเทเนียมรีไซเคิลตัวแรกของเรา ขวดรีไซเคิล Titanium Aurora Snow Peak เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการเลือกสรรไทเทเนียมคุณภาพสูง วัสดุน้ําหนักเบาเป็นพิเศษเป็นโซลูชันที่ทนทานแต่โฉบเฉี่ยวสําหรับเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและเครื่องครัวสําหรับตั้งแคมป์ ความมุ่งมั่นของเราต่อผลิตภัณฑ์ไทเทเนียมระดับพรีเมียมมีต้นกําเนิดมาจากต้นกําเนิดของ Snow Peak ในเมือง Tsubame Sanjo รัฐนีงาตะ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงด้านงานโลหะ เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่ Snow Peak ได้ร่วมมือกับซัพพลายเออร์ Nippon Steel เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ไทเทเนียม ไทเทเนียมที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ Snow Peak ส่วนใหญ่มีความต้านทานการกัดกร่อนและความทนทานที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้คาร์บอนเป็นกลางผ่านอายุการใช้งานที่ยาวนานและการลดของเสีย อย่างไรก็ตาม กระบวนการผลิตไทเทเนียมใช้พลังงานจํานวนมากและผลิต CO2 Snow Peak และ Nippon Steel แบ่งปันความมุ่งมั่นในการบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนภายในปี 2050 โดยกําจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตของเราอย่างเต็มที่ ในการดําเนินการนี้ เราได้ร่วมมือกันเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งช่วยลดการปล่อย CO2 Nippon Steel พัฒนา TranTixxii®-Eco ซึ่งเป็นวัสดุไทเทเนียมใหม่ ด้วยการรวมเศษไททาเนียมมากกว่า 50% เป็นวัตถุดิบ วัสดุใหม่นี้ช่วยลดการปล่อย CO2 ได้มากกว่า 50% ในระหว่างกระบวนการกลั่น ทําให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Snow Peak ใช้ TranTixxii®-Eco ด้วยการเปิดตัวขวดไทเทเนียมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขวดแรกของเรา Recycled Titanium Aurora มีจําหน่ายในขนาด 600 มล. และ 800 มล. ตัวขวดทําจาก TranTixxii®-Eco และชุบอโนไดซ์ในการไล่ระดับสีฟ้า-เขียวที่สวยงามซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากมหาสมุทร ฝาขวดทําจากพลาสติกรีไซเคิล ภารกิจของ Snow Peak เป็นแรงบันดาลใจให้เราทํางานร่วมกันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง กับการดูแลโลกของเรา การทําเช่นนี้ เราจะสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกันต่อไป CAMPSTUDIO SNOW PEAK THAILAND

  • 5 ไอเดียการตกแต่งพื้นที่ ด้วยตะเกียง Railroad สไตล์วินเทจ จาก Barebones

    เทรนด์การตกแต่งมักเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามเวลา ดังนั้นการเลือกสิ่งของที่ใช้งานได้หลากหลาย ไร้กาลเวลา จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างพื้นที่ และประสบการณ์ที่สวยงาม อย่างตะเกียงวินเทจ Barebones Railroad นี้ ที่ดูโบราณ แต่ใช้งานได้จริงเหมือนกับ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ชนิดอื่นๆ เราได้รวบรวม 5 สไตล์ในการตกแต่งตะเกียง Railroad ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน หรือทุกการเดินทาง 1. ตกแต่งมุมบ้านของคุณด้วยตะเกียงวินเทจ ไม่ว่าการตกแต่งภายในบ้านของคุณจะออกแนวเรียบง่าย ผสมผสาน หรือคลาสสิค แต่สไตล์การตกแต่งมุมโปรดในบ้านของคุณก็สามารถกำหนดบรรยากาศให้กับส่วนอื่นๆในบ้านของคุณได้ ไม่มีของตกแต่งชิ้นไหนที่จะเหมาะไปกว่าตะเกียงวินเทจอีกแล้ว นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นจุดโฟกัสหลัก สำหรับพื้นที่ในบ้าน และให้สร้างบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับค่ำคืนที่แสนสบายอีกด้วย 2. สร้างบรรยากาศให้กับแกลมปิ้งเต็นท์ หรือคาร์แคมป์ ตะเกียงที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นไฟอ่านหนังสือ หรือนำทางคุณในยามค่ำคืน เพียงแขวนไว้บนเต็นท์หรือรถแคมป์ ที่คุณต้องการแสงสว่างเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ตะเกียง Railroad ยังมีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับตะเกียงโบราณทั่วไป และยังจัดเก็บง่าย ทำให้สัมภาระของคุณเบาลง หากคุณเป็นคนที่ชอบการเที่ยวแบบแกลมปิ้ง ตะเกียงที่มีความสวยงามแบบวินเทจนี้ จะเพิ่มรายละเอียดที่น่ารักให้กับโต๊ะอาหารค่ำของคุณได้อย่างสวยงาม หรือทำหน้าที่เป็นไฟกลางคืนที่สมบูรณ์แบบด้วยความสว่างที่ปรับได้ หากคุณกำลังเฉลิมฉลองกิจกรรมพิเศษ ให้แขวนโคมไฟวินเทจจากต้นไม้ หรือจุดไฟทางเดินไปยังพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งของคุณ รับรองว่าตะเกียงนี้จะช่วยเพิ่มบรรยากาศที่พิเศษให้กับคุณได้อย่างแน่นอน 3. ตกแต่งไว้กลางโต๊ะปิกนิก ไม่ว่าการปิกนิกของคุณจะเป็นแบบกะทันหัน หรือออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ตะเกียง Railroad ก็เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างบรรยากาศได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อจัดรูปแบบปิกนิก ให้เริ่มต้นด้วยตัวเลือกสำหรับที่นั่ง เช่น ผ้าห่มหรือเบาะรองนั่ง และเพิ่มหมอนอีกสองสามใบเพื่อความสบายยิ่งขึ้น อย่าลืมบรรจุถ้วย และจานที่มีน้ำหนักเบา ผสมผสานองค์ประกอบทางธรรมชาติอื่นๆ เช่น ดอกไม้ หรือต้นไม้รอบๆ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือแสงสว่างจาก ตะเกียง Railroad ที่สมบูรณ์แบบทั้งประโยชน์ใช้สอย และความสวยงาม 4. ตกแต่งทางเข้า หรือห้องโถง ทางเข้าบ้านเป็นสิ่งแรกที่แขกเห็นเมื่อมาถึงบ้านของคุณ ตะเกียงวินเทจจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบายตา ไม่ว่าจะแขวนที่ระเบียงด้านหน้า ใกล้ๆประตูทางเข้าบ้าน หรือเพิ่มมิติให้กับโต๊ะและม้านั่งตรงทางเดินด้วยการจับคู่ตะเกียงกับต้นไม้เขียว ดอกไม้สด หรือของตกแต่งแบบคลาสสิกอื่นๆ หรือเพียงแค่แขวนไว้ข้างประตูหน้าเพื่อต้อนรับแขกอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้ตะเกียงวินเทจยังใช้งานได้หลากหลายเหมาะสำหรับทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะฤดูหนาวหรือฤดูร้อน ตะเกียงก็ช่วยเพิ่มความรู้สึกที่อบอุ่นสมบูรณ์แบบ 5. ตกแต่งในงานอีเว้นท์ หรืองานพิเศษ กุญแจสำคัญของงานแต่งงานที่เรียบง่ายแต่น่าทึ่งคือการเน้นที่รายละเอียด และตะเกียงวินเทจก็มอบความหลากหลายที่เพียงพอให้เข้าได้กับทุกธีมงานแต่งงาน ไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าไปที่งานแต่งงานที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าหรือปาร์ตี้ในสวนหลังบ้าน ให้พิจารณาเพิ่มโคมไฟวินเทจหรือของประดับตกแต่งเก๋ๆ ที่หัวโต๊ะหรือโต๊ะรับแขก หรือแขวนไว้บนต้นไม้หรือรั้วหลังบ้านเพื่อกำหนดพื้นที่และจัดเตรียมงานในอุดมคติ ระดับแสงตามอารมณ์ เมื่อรู้สไตล์การตกแต่งตะเกียง Railroadแล้ว มาเลือกสีที่คุณชอบแล้วลุยเลย! BAREBONES OFFICIAL THAILAND CAMPSTUDIO THAILAND

bottom of page